ซิลเวีย .... เดินหน้าหงิกออกมาจากห้องเจ้านาย  มือคลำบั้นท้ายป้อย ๆ

ออฟฟิศ

อารมณ์บูดเพราะเจ็บแปลบ ๆ ที่บั้นท้าย กับ หัวไหล่ มีอาการมา 3-4  วันแล้ว หนำซ้ำยังโดนเจ้านายตำหนิด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง  นี่ถ้าเธอเดินผ่านนายหลุดโลก เธอจะถูกแซวว่าอะไรอีกเนี่ย 

แต่จะให้เดินอ้อม ?...ไม่เอาล่ะ  เมื่อยบั้นท้าย  เดินตรงไปนี่แหละ

เหมือนกับนรกเสก จู่ ๆ นายหลุดโลก หันขวับมาพอดี

“โอ้  ศรีเวียง ทุ่มกว่าแล้วยังไม่กลับเหรอ ? ขยันจริง” เขายักคิ้ว ท่าทางกวนประสาท


ซิลเวีย ยิ้มแหย ๆ ยักคิ้วตอบ ไม่พูดอะไร


“เอ๋า... ทำงานจนตะโพกครากเลย  บ๊อสให้ไปไถนามาเรอะ ? ”

เธอหยุดทันที  ยืนเท้าสะเอว
“นี่ นายหลุดโลก ถ้าว่างนัก ทำไมนายไม่ไปเอาอะไรมาบ้วนปากซักหน่อย จะได้พูดจาได้เข้าหูคนมากกว่านี้”

“แน่ะ หงุดหงิดมาจากไหน ? .... เมื่อไหร่จะเรียกชื่อชั้นดี ๆ ซะที  เรียกรุ่งโรจน์ไม่เป็นเหรอไง ? ”

“ทีชื่อชั้น ซิลเวีย เธอยังเรียก ศรีเวียงได้”

“หน้าก็ไท๊ ไทย  ชื่อซิลเวีย เหอ ๆๆๆ”

ซิลเวียสั่นหัว ขยับจะเดินออกไป
“เป็นไรอะ  เสียดท้องเหรอ ?” หลุดโลกถาม 

เธอสั่นหัว “ไม่มีอะไร”

“ไม่อะไร แล้วคลำหลังทำไม ?”

ซิลเวียเริ่มชักสีหน้า ตาโต  อีกฝ่ายรีบชิงพูด
“นี่ เดี๋ยว  ๆ อย่าเพิ่งโกรธสิ ไม่ได้จะแซว ถามจริง ๆ เพราะเป็นห่วง  เห็นเธอเครียดกับงานมาหลายวัน ไอ้ที่คลำ ๆ อยู่เนี่ย เพราะกินอาหารผิดเวลาหรือเปล่า ?”

เธอถอนหายใจ แล้วเริ่มพูดดี ๆ 

“ก็ เปล่า กินตรงเวลา ไม่ได้ปวดท้อง แต่มันเจ็บตรงนี้ แปล่บ ๆ” เธอชี้ที่ส่วนล่างของบั้นท้าย  “เป็นมาสองสามวันแล้ว”

เขาขมวดคิ้ว แล้วยกมือ “งั้น เดี๋ยวก่อน รอแป๊บนะ”  เขาก้มไปหยิบเป้ ควักลูกดิ่งออกมา
“นี่ เธอ ขอเวลาแป๊บ ซักห้านาที นั่งตรงนี้ นี่” เขาลากเก้าอี้มาให้

ซิลเวียเลิกคิ้ว ทำหน้างง ๆ แต่ก็ทรุดตัวลงนั่ง

“เอ้า นั่งนี่ เอามือซ้ายขึ้นมา วางบนโต๊ะนี่”

“เธอจะทำไรอะ ? ” ซิลเวียจ้องลูกดิ่งในมือของเขา “นั่นอะไร ?”

ลูกดิ่งเพนดูลั่ม“นี่ ลูกดิ่ง  ไม่ต้องกลัวน่า ขอเวลาแป๊บ  วางมือ แบออก เฉย ๆ...ว้า แบออกมาดิ หงิก ๆ แบบนี้ไม่ได้  เออนั่นแหละ”
เขาเอาลูกดิ่ง จ่อบนฝ่ามือเธอ
“เธอทำไรอ่ะ ?ไอ้นี่ใช้ทำอะไร ?  เอ๊ะ ..จั๊กจี้นิด ๆ เหมือนมีอะไรดูด ๆ”
“ขอเวลาแป๊บนะ อีกยี่สิบวินาที ค่อยพูด ตอนนี้ขอสมาธิแป๊บ”

ซิลเวียเริ่มแปลกใจ เมื่อเห็นลูกดิ่งหมุนเป็นวงกลม  เดี๋ยวลูกดิ่งก็หยุดนิ่ง  เดี๋ยวก็หมุน  ทั้ง ๆ ที่เธอสังเกตว่า มือเขาไม่ได้แกว่ง  แต่ลูกดิ่งหมุนได้เอง

นายหลุดโลกเริ่มพูด “เธอเกิดวันพุธ เดือนกันยา ใช่มั้ย ? ”

ซิลเวีย หัวเราะอย่างแปลกใจ “อือ... เธอรู้ได้ไง ? เป็นหมอดูเหรอ ? ไอ้นี่บอกเธอเหรอ ?” เธอหมายถึงลูกดิ่ง

“หมอดูก็เป็นได้ แต่ไม่เป็น ตอนนี้อยากเป็นหมอ ถ้าถูกต้องก็ ขอเวลาอีกครึ่งนาที”

“นี่เธอจะดูดวงให้ฉันเหรอ หา..?”

“เอิ๊ว... ก็บอกว่าขออีกครึ่งนาที ตอนนี้ปิดปาก อมน้ำลายเล่นไปก่อน”

ลูกดิ่ง หมุนบ้าง หยุดบ้าง ซิลเวียนั่งจ้องอย่างแปลกใจ  แต่ถ้าเขารู้ว่าเธอเกิดวันพุธเดือนกันยาได้จริง ก็นับว่าแม่นมาก เพราะเธอไม่เคยบอกใครเรื่องวันเกิด

“เอาล่ะ...เธอไม่ได้เป็นไรมากหรอก ไอ้ที่ปวด ๆ นั่นไม่ใช่ท้อง ไม่ใช่เจ็บกล้ามเนื้อหรอก เธอน่ะ เป็นโรคขี้ขึ้นสมอง”


ซิลเวียหัวเราะ “โรคบ้าอะไร ? ขี้ขึ้นสมอง”


“อุจจาระตกค้าง มันเบียดกระดูกเอว ทำให้กระดูกเอวเคลื่อน ไอ้ที่ปวด ๆ นั่นแหละ เพราะกระดูกเอวเคลื่อน... แล้วถ้าปล่อยไว้ ไม่เอาอึออก มันจะเริ่มปวดส่วนอื่น เช่น ตึงตามเส้น”

เขาเอามือชี้ตามเส้นให้ดู  “แล้วก็อาจจะปวดหัวไหล่ สะบัก”


ซิลเวียแปลกใจ “ใช่ ๆ  เธอรู้ได้ไง ?   ชั้นยังไม่ได้บอก แต่เนี่ยเจ็บ ๆ ที่ไหล่มาสองสามวันแล้ว”


“เหรอ  นี่เป็นอาการปกติของอุจจาระตกค้าง”

“ชั้นถ่ายทุกวัน มันจะค้างได้ไง ?”
“ถ่ายทุกวัน ก็ค้างได้  เธอถ่ายกี่โมง ?”

“ก็... ถ่ายประมาณเก้าโมงกว่า ทุกวัน”

“เก้าโมง แดดกำลังดี ถ่ายตอนนี้ เงากำลังสวย”

“เธอพูดเรื่องไรอะ ?” ซิลเวียเริ่มงง

“ปล่าว.... ถ่ายเก้าโมงตกค้างแน่นอน ลำไส้ใหญ่ของคนเรา ไม่ได้ทำงานเวลานั้น  มันทำงานเวลาตีห้าถึงเจ็ดโมงเช้า  สายกว่านั้นมันก็พักของมันแล้ว…  เอางี้ ก่อนจะฟังอะไรยาว ๆ จะช่วยจัดการกับไอ้อาการปวดบั้นท้ายก่อน เดี๋ยวจะจัดกระดูกเอวให้”

“จัดกระดูกเอว ทำไง ?”

“เอาตีนกระทืบ” เขาหัวเราะ “ล้อเล่นน่ะ แต่เธอต้องเชื่อใจ”

เขาลุกขึ้นยืน แล้วมองไปรอบ ๆ “ต้อย ๆ  ต้อยว่างอยู่หรือเปล่า ? ต้อยมาทางนี้ มีอะไรให้ช่วยหน่อย”
สาวหุ่นท้วมพยักหน้า ค่อย ๆ เดินมา
เขาชี้ไปที่ห้องประชุม  “ไป ไป ใช้ห้องประชุม  ต้อยไปช่วยพี่หน่อย”

ในห้องประชุม กระดาษโปสเตอร์ถูกปูรองที่พื้น  ซิลเวียกำลังนอนราบหน้าคว่ำลงกับพื้น  นายหลุดโลกกับต้อย คุกเข่าอยู่ข้าง ๆ  เขากำลังจะสอนให้ต้อยจัดกระดูกให้ซิลเวีย
“เอาล่ะ คราวนี้ต้อยทำตามที่พี่บอกนะ ค่อย ๆ วางมือแบบนี้  ตรงสะโพกก่อนนะ”

ซิลเวียพึมพำ “ชั้นจะตายมั้ยเนี่ย ?”

“ถ้าเธออยากตาย ชั้นให้ต้อยกระโดดทับ จะเอาปะ ? ”


ต้อยหัวเราะคิก ๆ
“เอ้า. วางมือแบบนี้นะ เออ... นั่นแหละ แล้วค่อย ๆ โน้มตัวลงไป ลงน้ำหนัก เออ นั่นแหละ... แล้วเลื่อนขึ้นไป อย่าให้มือไปโดนกระดูกสันหลังนะ”


เสียงดังกรึ๊บมาจากหลังของซิลเวีย  ทุกคนได้ยิน ต้อยตกใจ ชะงัก
“ไม่ต้องกลัว  เสียงกรึ๊บนั่นคือกระดูกมันเข้าที่น่ะ ไม่เป็นไร ไม่เจ็บหรอก ใช่ปะ ซิลเวีย เจ็บปะ ?”


“อือ ไม่เจ็บ”


ต้อยนวดจัดกระดูก ไป-กลับ สองสามครั้ง  จนเขาบอกให้พอ  ซิลเวียก็ลุกขึ้น


“ลองยืน แล้วเดินดูว่า รู้สึกยังไง”


ซิลเวีย สะบัดแขน สะบัดขา เดินไปมา  เธอรู้สึกโล่งอย่างชัดเจน อาการที่เกิดขึ้นกับบั้นท้ายหายไปราวกับปลิดทิ้ง

เธอพยักหน้าหลายครั้ง
“เออ ใช่  เออ... โล่งเลย”


คราวนี้ ทั้งต้อย ทั้งพ่อหมอ ยิ้มดีใจ
“เก่งมากต้อย” เขาพูดกับหมอนวดจำเป็น
ต้อยทำหน้างง ๆ
“แค่นี้ ก็หายแล้วเหรอ ? ง่ายจัง”

********************************************************************************************

ทุ่มครึ่ง


ซิลเวียนั่งทานข้าวกับเพื่อนร่วมงานที่เธอไม่เคยชอบหน้ามาก่อน แต่การที่เขาช่วยให้อาการเธอดีขึ้น เธอก็ลดความเหม็นหน้าลงได้บ้าง

โต๊ะอาหาร“ขอบคุณนะ รุ่งโรจน์”
อีกฝ่ายอมยิ้ม
“เธอยิ้มอะไร ?”
อีกฝ่ายอมยิ้ม มองหน้า แล้วไม่พูดอะไร ตักข้าวใส่ปาก
“เธอยิ้มอะไร ? ท่าทางกวนอีกแล้ว”
“ปล่าว... ก็มีเรื่องให้ยิ้ม”
“เรื่องอะไร ?   นี่... เธอเลิกยิ้มแบบนี้  เธอคิดอะไรอยู่น่ะ ?   ชั้นไม่ชอบผู้ชายยิ้มแบบนี้ ต้องคิดอะไรอยู่แน่”

เขาวางช้อน “เมื่อกี๊ เธอเรียกชั้นว่าอะไร ? ”


“ก็เรียกว่า รุ่งโรจน์ ทำไม ?”


เขาอมยิ้มอีก
“นี่ หยุดยิ้มซะที  มีอะไรพูดออกมา”


“แล้วตั้งแต่รู้จักกัน เธอเรียกฉันว่าอะไร ?”


ซิลเวียถอนหายใจ “ทำไม ก็ท่าทางเธอมันหลุดโลกจริง ๆ  ทำไมฉันจะเรียกไม่ได้  ถ้าเธอพูดจาเป็นผู้เป็นคน ฉันก็จะเรียกเธอว่ารุ่งโรจน์”

เขาอมยิ้ม

“นี่ ยิ้มอีกแล้ว บ้าว่ะ เหมือนคนโรคจิต”

หนุ่มโรคจิตมองหน้า “ได้ยินเธอเรียกรุ่งโรจน์แล้ว....” เขาหยุดพูดซะยังงั้น

อีกฝ่ายสั่นหัว จะเอาอะไรกับนายนี่ดี  เดี๋ยวพูด เดี๋ยวหยุด จะให้เดาใจกันหรือไง

เขารวบช้อน แล้วเลิกยิ้ม
“นี่อาการเธอน่ะ มันหายชั่วคราวนะ  ถ้าเธอไม่เอาขี้ออก เดี๋ยวมันก็เป็นอีก”

“ชั้นไม่เข้าใจ ชั้นถ่ายทุกวัน มันตกค้างได้ไง ?”

“เธอจะให้เล่าตอนนี้ หรือ เธอจะกินให้เสร็จก่อน ? ถ้าให้ชั้นสาธยายเรื่องขี้ตอนนี้ จะกินลงเหรอ ?”

“ไม่เป็นไร ชั้นอิ่มแล้ว ตอนเย็นไม่ค่อยทานมากหรอก คุมน้ำหนักอยู่” แล้วเธอก็รวบช้อน

“เธอรู้มั้ย หุ่นเธอน่ะดีอยู่แล้ว น้ำหนักนั่นน่ะ ไม่ได้มาจากการกินหรอก  มันมาจากอะไรรู้มั้ย ?”

สาวรู้สึกฉงนเล็กน้อย ได้ยินคำว่า หุ่นดีอยู่แล้ว ทำให้เธอเขินเล็ก ๆ
“มาจากอะไร ? อย่าบอกนะ ว่าอุจจาระตกค้าง ?”

เขายักคิ้ว
“อธิบายง่าย ๆ ก่อน  เปรียบเทียบกับอะไรดีว้า... อ้อ นี่ละกัน  เธอนึกถึงท่อเหล็กนะ ท่อตรง ๆ  ถ้าเราเอาของเหลวบ้าง ข้นบ้าง ใส่ไปทางด้านนึง ยัด ๆ มันเข้าไปเรื่อยๆ  เดี๋ยวมันก็ล้นออกทางปลาย ใช่ปะ ?”

เธอนึกภาพตาม แล้วพยักหน้า

“เธอจะยัดอะไรไปเท่าไหร่  เดี๋ยวมันก็ล้นออกทางปลายเท่านั้นแหละ  เพราะมันเข้าไปแทนที่กันได้เลย...  คราวนี้ เปลี่ยนใหม่  ถ้ามันไม่ใช่ท่อเหล็ก  แต่มันเป็นท่อยาง แล้วท่อยางนี้ ปากทางเข้าน่ะ เล็ก  แต่พอเลยปากทางเข้าไปแล้ว มันใหญ่ขึ้น แล้วพับไป พับมา ขดไป ขดมา  แล้วปลายท่อน่ะ ก็เป็นทางออกที่เล็กกว่าทางเข้าซะอีก นึกออกแล้วนะ”

ซิลเวียพยักหน้า “เธอกำลังหมายถึงลำไส้เหรอ ?”
“นั่นแน่ะ  แค่จัดกระดูกให้เนี่ย ทำให้ฉลาดขึ้นขนาดนี้เลยเหรอ”

อีกฝ่ายค้อน “เล่าต่อ อย่ามากวน”

“ไอ้ท่อยางที่บอกเนี่ย มันต่างจากท่อเหล็กมากเลย  สมมุติว่าเราค่อย ๆ ยัดของข้น ๆ เข้าไป เช่นน้ำมันพืช แล้วก็มีของเหนียว ๆ เช่น น้ำของราดหน้า แล้วก็ใส่ของอื่น ๆ เข้าไป  แทนที่พอมันเต็มแล้ว ยัดเข้าไป มันก็น่าจะล้นออกมาเท่าที่เรายัด  แต่เปล่า ยัดเข้าไปเพียบ แต่มันล้นออกมาหน่อยเดียว  เพราะของที่มันข้น ๆ น่ะ มันไปติดอยู่ตามซอกพับของยาง ซึ่งยาง คุณสมบัติมันคือยืดหยุ่นได้ มันก็เลยกักไอ้ของข้น ๆ เหนียว ๆ ไว้  แล้วยางมันก็ย้วย น้ำหนักมากขึ้น  คราวนี้ พอเรายัดของใหม่เข้าไป มันไม่ไปดันของเก่าตามซอกหลืบออกมา  มันดันเลยไปเลย แล้วออกมาโลด”

ซิลเวีย เลิกคิ้ว เหมือนกับไม่เข้าใจ
“ของใหม่ออกมาเลย ?”

“เอางี้  สมมุติ วันนี้เธอกินข้าวขาหมูกับช็อคโกแล็ต”

“บ้าเหรอ ใครจะไปกินข้าวขาหมูกับช็อคโกแล็ต”

“อี๊.. ไม่ใช่  ชั้นหมายถึง สมมุติวันนี้ เธอกินข้าวขาหมู  แล้วก็ตามด้วยช็อคโกแล็ตเป็นของหวาน  ไอ้หมูส่วนนึงกับช็อคโกแล็ตส่วนนึง มันก็เข้าไปติดในซอกหลืบของลำไส้น่ะ  ต่อมา พรุ่งนี้ เธอกินผักสด เธอคิดว่า ไอ้ผักสดที่กินพรุ่งนี้น่ะ มันจะเข้าไปดันขาหมูกับช็อคโกแล็ตเมื่อวานออกมาปะ ?”

ซิลเวีย เริ่มเข้าใจแล้ว
“อือ ๆ  มันไม่ออก เพราะของเก่ามันติดอยู่ในซอก  ของใหม่ก็แซงมันออกมาเลย ใช่ปะ ?”


คุณครูหัวเราะ “อ้า น่าน... ฉลาดมากขึ้นแล้ว  ปีหน้าให้ขึ้นปอหนึ่งได้แระ”

เธอยิ้ม ไม่ได้โกรธ  เขาอธิบายต่อ
“ลำไส้ของผู้หญิงน่ะ ยาวกว่าผู้ชายอีกหลายฟุตนะ  ของผู้ชายยาวประมาณสามสิบฟุต”

“หา... สามสิบฟุต ? มันยาวมากเลยนะ”

“ใช่ ลำไส้คนเรา ยาวกว่าความสูงของเราประมาณห้าถึงหกเท่า…  ส่วนผู้หญิงน่ะ ลำไส้ต้องยาวกว่าชายเพราะต้องมาอุ้มมดลูกกับรังไข่ด้วย  ของผู้ชายไม่ต้อง มีแค่ไข่สองใบ”  เขาหัวเราะคิกคัก

“นี่ ทะลึ่งอีกแล้ว”

“ไอ้ลำไส้ที่ยาว ๆ น่ะ มันกักเก็บของเก่าไว้ตามซอกหลืบเพียบ  ของใหม่ยัดเข้าไป อันไหนที่มันเบา มันก็แซงออกมาเลย อันไหนที่มันหนัก มันก็ไปเกาะเพิ่ม  ทำให้น้ำหนักของลำไส้ มากขึ้น ๆ ทุก ๆ วัน  เต็มไปด้วยของเสียเน่าเหม็น  เป็นแก๊สพิษหมุนเวียนในระบบเลือด  แล้วเลือดเน่า ๆ มันก็วิ่งขึ้นสมอง  ชั้นถึงเรียกว่าโรคขี้ขึ้นสมองไง  คุณหมอพรทิพย์เคยเล่าว่า เวลาผ่าศพนะ บางศพเจอขี้หนักสิบกิโล”

“หมอพรทิพย์บอกเธอเองเหรอ ? ” เธอเริ่มแซวบ้าง

“อือ... หมอพรทิพย์เวลามีอะไรก็จะระบายให้ชั้นฟัง”  เขาโม้ทับซะเลย   อีกฝ่ายสั่นหัว

ลำไส้ และ อุจจาระตกค้าง

ซิลเวียเอามือลูบท้องไปมา
“แล้วเนี่ย ของเสียมันจะอยู่ในท้องชั้นมากขนาดไหนเนี่ย ? ”
“ถ้าดูจากสภาพเธอตอนนี้นะ บางส่วนคงวิ่งขึ้นสมองมาบ้างแล้วล่ะ” เขาหัวเราะ

“ไอ้บ้า !!!”

“น้ำหนักของขี้ตกค้างเนี่ย  มันก็ทำให้ลำไส้ย้วยไปกดทับอวัยวะอื่น ๆ ใกล้เคียง เช่น มดลูก ตับอ่อน กระดูกเอว กระเพาะปัสสาวะ”

เธอเบิกตา “โอ... ขนาดนั้นเลยเหรอ ? ”
“อือ ไม่ได้ล้อเล่นน่ะ  บางคนมาให้ตรวจ เพราะเป็นเบาหวาน แต่ชั้นตรวจแล้วพบว่า ตับอ่อนทำงานผิดปกติเพราะอุจจาระตกค้างไปเบียด  พอเอามันออก เบาหวานก็หาย”

“นี่ เดี๋ยวก่อน เธอเป็นหมอเหรอ ?   เธอตรวจโรคพวกนี้ได้ด้วยเหรอ ?”

“ช่างเหอะ  ขี้เกียจเล่า เอาเป็นว่า เธอน่ะ ไปจัดการกับขี้ตัวเองก่อนเถอะ ก่อนที่มันจะแผลงฤทธิ์เพิ่ม เป็นกรดไหลย้อนคราวนี้จะหนักกว่า”

“กรดไหลย้อน ก็มาจากสาเหตุนี้เหรอ ?”

“อือ”

“เธอไปเรียนมาจากไหน ? ทำไมเธอรู้เยอะจัง ?”

“เคยได้ยินชื่อด๊อกเตอร์ ฟิลลิบเป้ ฉั่วคิมเฮง เดอลาลู๊ซ ป่ะ ?”

เธอสั่นหัว “ใครอ่ะ ชื่อยาวจัง อาจารย์เธอเหรอ ?”

“เปล่า ชั้นก็ไม่รู้จักเหมือนกัน”

“ไอ้บ้า !!!.. แล้วพูดขึ้นมาทำไม !”

เขาก้มลงหยิบหนังสือเล่มเล็ก ๆ ในเป้ แล้วยื่นให้
“เอ้า นี่ หนังสือนาฬิกาชีวิต อาจารย์สุทธิรักษ์เป็นคนบรรยาย  คนนี้แหละอาจารย์ชั้น  เธอเอาไปอ่านก่อน แล้วเรื่องแรกนะ เธอไปดูสูตรเม็ดแมงลักก่อน ว่าเธอทำได้มั้ย มันจะช่วยลากญาติของเธอออกมาก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน  รีบทำซะ อย่ารอให้แก๊สพิษทำผิวพรรณเสียซะก่อน”

เขายกเป้ขึ้นสะพายแล้วลุกขึ้นยืน
“ชั้นไปก่อนนะ เธอรอหมอใช่ปะ ?   อือ... มีแฟนเป็นหมอแท้ ๆ กลับปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นตุ่มดองขี้ ไปก่อนนะ ศรีเวียง” เขาโบกมือ แล้วเดินจากไป  ซิลเวียนึกจะเถียงกลับ แต่ไม่ทันซะแล้ว

เธอนั่งคิดถึงเรื่องลูกดิ่ง แล้วเธอก็อดสงสัยไม่ได้ว่า มันคืออะไรกันแน่  แล้วผู้ชายคนนี้ ที่เธอไม่เคยแม้แต่คิดว่าจะคุยเป็นเรื่องเป็นราวด้วย ทำไมเขามีความรู้เรื่องแปลก ๆ แตกต่างจากคนอื่นแบบนี้

รุ่งโรจน์

__________________________________________________________________________________________

โดย วีรยาติ

กลับขึ้นด้านบน

พ็อคเก็ตบุคนิยายหมอเถื่อน เล่ม 2 - 4 เปิดให้จองล่วงหน้าแล้ว อ่านรายละเอียดได้ที่นี่

อ่านตอนต่อไป

อ่านตอนอื่น

สมัครสมาชิก เว๊บบอร์ดที่นี่ (หากไม่สมัครสมาชิก จะโหวต หรือ แสดงความคิดเห็นไม่ได้) และ

อ่าน หรือ แสดงความคิดเห็นที่นี่




Free counter