|
|
|
|
ตะลุ่งตุ้งแช่ ตอน 8
เก็บตกส่งท้ายปี
สุขภาพดีได้ ไม่ต้องเดี๋ยว
|
ตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้นปีแล้วว่า...
...จะเก็บตกเรื่องราวดี ๆ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับสุขภาพแนวธรรมชาติบำบัด ที่แอบจดแอบจำมาจาก ท่าน อ.สุทธิวัสส์ คำภา จากการที่ได้เป็นศิษย์ไปเรียนกรรมฐานที่บ้านอาจารย์ทุกสัปดาห์ และ จากการที่มีโอกาสติดตามไปฟังการบรรยายหลายต่อหลายแห่ง มีทั้งประเภทครูพักลักจำ มีทั้งตั้งคำถามซึ่ง ๆ หน้า ตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น พอประมาณได้ดังนี้ :-
- อาหารหน้าหนาว ให้กินข้าวต้มแครอท เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย แก้มจะแดงเปล่งปลั่ง หรือจะกิน มันต้มขิง ถั่วเขียวต้มน้ำตาลทรายแดงใส่ขิง หมี่หวาน น้ำอบเชย (อบเชยผงชงน้ำร้อน) ก็ได้ อาหารพวกนี้ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นเช่นกัน
- คนเป็นไข้เลือดออก พิษจะไปสะสมที่ตับ ให้กินถั่วเขียวต้มน้ำตาลทรายแดง จะช่วยขับพิษที่ตับได้
- ป้องกันไวรัสที่บ้านและที่ทำงาน ใช้อบเชยแบบแท่งใส่เรียงในแก้วทรงสูง เติมน้ำมันยูคาลิปตัส (แบบที่ใช้ดมแก้หวัด) แช่ไว้ จะกลายเป็นน้ำมันหอมระเหยกลิ่นอบเชย (Cinnamon Aroma Therapy) ไม่ต้องจุดเตาให้มีเขม่าพิษ
- ล้างพิษที่ปากและฟัน ให้อมน้ำมันที่มีโมเลกุลเล็ก (oil pulling) เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันงา น้ำมันขิง หรือน้ำมันข่า อมนานประมาณ ๒ นาที แล้วบ้วนทิ้ง (ห้ามกลืนเด็ดขาด!) การเคี้ยวหมากเคี้ยวพลูแบบคนสมัยก่อนก็เป็นการดีท้อกซ์ปากและฟันได้ดีอีกวิธีหนึ่ง
- ล้างพิษที่จมูก ให้เสกน้ำล้าง โดยอุดรูจมูกข้างหนึ่ง แล้วสูดน้ำเข้าไปล้างทีละข้าง
- ล้างพิษที่ตา ใช้น้ำมะพร้าวอ่อนล้างตา (ล้างเสร็จแล้วห้ามนำน้ำมากินต่อ โบราณเค้าถือ ถ้ากลัวเสียของก็ให้นำมาราดหัวชโลมผมเพิ่มฮอร์โมนแอสโตรเจนก็ได้)
- ล้างพิษที่หู ให้ใช้น้ำมันมะรุมหยอดหูข้างละหยดก่อนนอน
- เม็ดมะรุมกับใบมะรุมไม่ควรกินพร้อมกัน มันจะไปหักล้างกัน เพราะใบมะรุมมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราแต่จะไปส่งเสริมเชื้อไวรัส ส่วนเม็ดมะรุมนั้นหนาฆ่าเชื้อไวรัส แต่ไปส่งเสริมเชื้อรา หนำซ้ำกินเม็ดมะรุมติดกันนานไปจะกลายเป็นเบาหวานไม่รู้ตัว
ยกตัวอย่างคนเป็นเอดส์ จะมีทั้งเชื้อไวรัสและเชื้อราอยู่ในตัว การรักษาทั่วไปเลยไม่ค่อยได้ผล เพราะถ้าเราใช้เม็ดมะรุมฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อราจะยิ่งลั้ลลาเร่งขยายเผ่าพันธุ์ แต่ถ้าเราใช้ใบมะรุมกำจัดเชื้อราก่อน เชื้อไวรัสก็จะยิ่งฮึกเหิม
ทางที่ดีควรหาวิธีจัดการเชื้อรา โดยการกินผักมีเมือกชนิดอื่น ๆ เช่น ดื่มน้ำใบย่านาง, กระเจี๊ยบเขียว, ผักบุ้ง, ผักปลัง จนเชื้อราสิ้นซาก ค่อยหันมาพิฆาตเจ้าไวรัสวายร้าย
- สูตรเพิ่มกำลังสมองให้กับเด็กและเยาวชน โจ๊กข้าวฟ่างใส่น้ำตาลทรายแดง
- คนสูงอายุห้ามกินข้าวต้มค้างคืน เพราะมีลมเยอะ ลมตีขึ้น อันตรายถึงตาย!!
- ซีสต์ที่เต้านมไม่ค่อยเกิดจากกรรม เพราะเต้านมเป็นอวัยวะที่ได้บุญเพราะใช้เลี้ยงลูก
ส่วนใหญ่คนที่พูดเบา ๆ ขี้เกรงใจ ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง มีโอกาสเกิดซีสต์ที่เต้านมได้มากกว่าคนที่พูดเสียงดัง โผงผาง มั่นใจ(อันนี้เคยเก็บสถิติมาแล้ว ถาม ๑๐ ถูก ๑๐ เลยค่ะ)
- สาเหตุที่กินข้าวอิ่มแล้วง่วงนอน ก็เพราะเลือดมันไปเลี้ยงกระเพาะอาหารเยอะ ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองน้อย
- แล้วก็ ๔ สาเหตุที่ทำให้คนเลือดน้อย เพราะ
๑. ขาดความรัก (ให้อยู่ในคนหมู่มากแล้วรักทุกคน)
๒. มีพยาธิ (ให้ถ่ายพยาธิ)
๓. กระดูกสันหลังไม่ตรง (ให้ไปจัดกระดูกซะ)
๔. มีอุจจาระตกค้าง (ก็ไประบายออกสิ)
- คนเป็นโรคกระเพาะอาหาร จะกินอะไรไปแก้ก็ต้องดูกรุ๊ปเลือดด้วย เช่น เลือดกรุ๊ปบี ให้กินมัน กินเผือก / เลือดกรุ๊ปโอ ให้กินเนื้อเป็ด เนื้อวัว เนื้อแพะ อย่างน้อยอาทิตย์ละ ๒ ครั้ง (เหมือนอย่าง อ.สุทธิวัสส์ ท่านเป็นโรคกระเพาะฯ เรื้อรังมานาน รักษายังไงก็ไม่หาย มาหายได้จากข้าวต้มเป็ดนี่ล่ะ)แต่ถ้าเลือดกรุ๊ปโอแล้วกินมังสวิรัติ ก็ให้กินน้ำทับทิมทดแทน
ส่วนเลือดกรุ๊ปอื่น ก็กินขมิ้นชัน หรือกล้วยดิบ บ่อย ๆ ก็หายเองแหละ
- ไขมันในเลือดจะเป็นพิษเมื่อเจอกับ “น้ำตาล” ตัวล้างไขมันในเลือดได้ดีก็คือ “อ้อยจืด”
- ถ้ามีอาการตาไม่สู้แสงแดด ก็ให้กินผลไม้ตากแห้ง โดยเฉพาะลูกเกด (ที่ไม่ใช่ดารา) จะช่วยได้เยอะ
- สาว ๆ อย่าปล่อยให้ส้นเท้าแตก เพราะเป็นสัญญาณเตือนว่า “ม้าม” ผิดปกติ ระวังจะอ้วนง่าย! ให้หมั่นลงน้ำมันที่ผิวและที่เท้า อย่าปล่อยให้ผิวแห้ง แตกระแหง
เก็บตกเรื่องสุขภาพมาก็เยอะแล้ว ตบท้ายก็แทรกด้วยการตั้งโปรแกรมจิตให้ชีวิตดีขึ้น ให้ท่องทุกครั้งก่อนตื่นนอน หรือระหว่างเข้าฌาณนั่งสมาธิ
นับจากนี้ต่อไปไม่ว่าที่ไหนก็ตาม เมื่อไรก็ตาม ชีวิตเราจะดีขึ้นทุก ๆ ด้าน
- หลายคนอยากรู้ว่าบุญกับบารมีต่างกันอย่างไร? คำตอบแอบจดมาแล้วค่ะ
บุญ = การเสียสละ บารมี = ความดีที่ต้องทำให้เต็ม
- สุดท้าย-ท้ายสุด จะเชื่ออะไรไม่เชื่ออะไรนอกจากพิจารณาตามหลักกาลามสูตรแล้ว ลองดูอีกสูตรเป็นไง
เชื่อง่าย = งมงาย
เชื่อยาก = งมงาย
เก็บตกจบแล้วค่ะ!
ด้วยรัก และ ปรารถนาดี
จาก ศิษย์สาย ๒
กลับขึ้นด้านบน
อ่านตอนอื่น
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
|