ตะลุ่งตุ้งแช่ ตอน 14

คุณจำผมไม่ได้ แต่ผมจำคุณได้

 


ห่างหายไปนาน กลัวว่าหลายคนจะลืม ไม่เป็นไรใครจะลืมก็ลืมไปเถอะ แต่ผู้เขียนคอลัมน์นี้ยังจำทุกท่านได้เสมอ (เหอๆๆ )

ยุคที่นาฬิกาชีวิตเผยแพร่ใหม่ๆ ท่าน อ.สุทธวัสส์ คำภา อาจารย์ของเราจะให้ความสำคัญกับ 12 อวัยวะหลักในร่างกาย ได้แก่ หัวใจ ตับ ไต ม้าม ปอด ฯลฯ

ยุคนี้ พ.ศ.นี้ มีอีกสามสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า หากเราดูแลได้ดี จะไม่มีวันป่วยเลย...จริงๆ

สามสิ่งนั้นได้แก่ หลอดเลือด, หลอดน้ำเหลือง และเซลล์ประสาท ที่จะวิ่งคู่ขนานไปพร้อมๆ กันในร่างกายเรา

ถามว่าอะไรสำคัญที่สุด

คำตอบคือ “เซลล์ประสาท” เพราะเป็นตัวเชื่อมโยงกับอีกสองสิ่ง

เวลาเรากินอาหารจะถูกจะแพง หรือ อร่อยไม่อร่อยแค่ไหน ผ่านระบบย่อยในร่างกายก็จะสกัดสารอาหารเหล่านั้นมาเป็น “น้ำเหลือง” เพื่อไปสันดาปกับออกซิเจนในเลือด โดยมีเซลล์ประสาทเป็นตัวนำพาไป

ถ้าเซลล์ประสาทเดี้ยง ทำให้ปลายประสาทเสื่อม น้ำเหลืองก็จะไปรอเก้อไม่สามารถสันดาปกับออกซิเจนในเลือดได้

มันจะเอ่อล้นท้นออกมา เป็นอาหารชั้นดีของแบคทีเรีย ทำให้น้ำเหลืองเสีย

เราก็จะมีกลิ่นตัว กลิ่นสาบสาง มีกระ หรือ ติ่งเนื้อขึ้นตามผิวหนัง เป็นแผลจะหายยาก ฯลฯ
ตัวที่ดูแลล้างหลอดน้ำเหลืองได้ดีที่สุดตอนนี้ คือ “ใบคนที”
(หาอ่านละเอียดได้ในหนังสือคนทีสอ ต้นหมอซัง)


จะกินสดหรือกินแห้งก็ได้ทั้งนั้น กินสดก็แค่เด็ดใบมากินเป็นผักเคียงคู่กับอาหารประเภทโปรตีน เช่น หมูปิ้ง ไก่ย่าง แหนมเห็ด เต้าหู้ทอด จะทำให้อาหารนั้นอร่อยลิ้นเลิศรสมากยิ่งขึ้น

ถ้ากินแห้ง ก็เก็บใบสดไปอบแห้ง ป่นใส่ถุงเก็บไว้โรยอาหาร หรือ เครื่องดื่มที่เราโปรดปรานกินทุกวัน

ค้นพบว่าถ้าโรยใส่โยเกิร์ตกินจะอร่อยมาก (สุนัขที่บ้านก็ชอบสูตรนี้เช่นกัน กินแล้วตัวไม่เหม็น ไม่มีเห็บหมัด) 

ถ้าจะให้ได้อารมณ์กินยา ก็บดใส่แคปซูล กะโด๊สกินให้เพลิดเพลินไปเลย แคปซูลขนาด 500 มก.

ถ้ากินแก้น้ำเหลืองเสีย อ.สุทธิวัสส์ท่านแนะนำให้กินเช้า 3 เย็น 3 แคปซูล กินก่อนอาหาร 

แต่ถ้ากินเพื่อฆ่าพยาธิ ก็เพิ่มเป็นเช้า 5 เย็น 5  (เรื่องพยาธิต้องขอยกไปต่อยอดวันหลังนะจ๊ะ)

เอาล่ะ เมื่อน้ำเหลืองสะอาดเอี่ยมอ่องแล้ว เราก็มาดูแลหลอดเลือดกัน !

หลอดเลือดคนเราเมื่อใช้ไปนานๆ ก็มักจะมีขยะมากองสุมอัดแน่นเต็มไปหมด เปรียบเหมือนม็อบสามเสน เริ่มจากขยะไขมัน ตามด้วยน้ำตาล ลำพังไขมันยังไม่น่ากลัวเท่าไร แต่เมื่อมีน้ำตาลไปผสมโรง ให้เรานึกภาพหมูสามชั้นผัดน้ำตาลหรือ “บะเต็ง” นั่นล่ะยังไงยังงั้น

 

มีไขมัน มีน้ำตาล เกาะเหนียวแล้ว ยังมี “หินปูน” มาสมทบเหมือนเอาปูนไปโบกทับ นอกนั้นก็ยังมี “สารพิษ” ทั้งจากยาแผนปัจจุบัน, เครื่องสำอางที่เป็นเคมี, ผงชูรส, สารกันบูด, ยาฆ่าแมลง, สารตะกั่ว โลหะหนัก, สารฟอร์มาลีน ฯลฯ ... อัดเข้าไป อัดเข้าไป ทำร้ายหลอดเลือดยิ่งกว่า พรบ.นิ-ระ-โทด-สะ-กำ


          

โอ๊ย ๆ กลัวแล้วจ้า !แล้วอิฉันจะเอาอะไรไปล้างหลอดเลือดดีล่ะ?

  1. น้ำอ้อยดำ+ใบเตย สูตรนี้สุดคลาสสิคเพราะเผยแพร่มานานระยะหนึ่งแล้ว
  2. ต้นธัมมัง หรือ ต้นแมงดา (มีมากแถวภาคใต้) ให้กินยอดอ่อนวันละ 7-8 ยอด ช่วยล้างหลอดเลือดได้ดี
  3. ถ้าคุณอยู่ในอเมริกา ก็ให้กิน “แดนดิไลน์” (Dandelion) ต้นไม้ที่ขึ้นตามข้างทาง

    ถ้าสะดวกกว่านั้นเค้ามีแบบแคปซูลของซันไรเดอร์ ก็เสียตังค์ไปซื้อกินเถอะ

 ทั้งนี้และทั้งนั้น สูตรล้างหลอดเลือดทั้งหลายจะยิ่งสัมฤทธิ์ผล ถ้าได้กินคู่ไปกับ “ข้าวต้มถั่วฝักยาว” แล้วทำตามกฎการกินอย่างเคร่งครัด (หาอ่านได้ใน น.ข้าวต้ม ช่วยได้)


(สาเหตุที่อธิบายแบบรวบรัด เพราะต้องประหยัดพื้นที่ให้ความสำคัญกับ “ปลาย
ประสาท” ดังที่เกริ่นไว้ในตอนต้น มิใช่อยากจะโฆษณาขายหนังสือแต่ประการใด หนังสือเราขายดีอยู่แล้วค่ะ ไม่เชื่อถามคุณ arunsaku ดูก็ได้)

พอสองหลอดสะอาด แต่ ถ้าปลายประสาทยังเสื่อม มันก็มึนตึ้บอยู่ดี ที่ถูกที่ควร ควรฟื้นฟูปลายประสาทก่อนด้วยการกิน “ใบข่า”
           

ก่อนจะอ้าปากกิน เรามารู้สาเหตุของปลายประสาทเสื่อมดีมั้ย จะได้หลีกเลี่ยงเส้นทางถูก ?

- การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ เตาไมโครเวฟ, โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์, ไอโฟน ไอแพด แท็บเล็ตต่าง ๆ
-  การกินอาหารที่มีสารปรอท ตะกั่ว แคดเมี่ยม เช่น อาหารทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา
-  การดื่มน้ำประปาต้มโดยไม่ผ่านการกรองหรือใช้เครื่องกรองไม่ได้มาตรฐาน
- อากาศ การหายใจเอาสารไคโตซาน, ซิลิคอน เข้าไปในปอด หรือ กินอาหารที่สารพิวรีนสูง อย่างเช่น สัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ ผักมีกลิ่นฉุนทุกชนิด รวมถึงผักยอดฮิต อย่าง คะน้า กะหล่ำปลี บร็อคโคลี่ แตงกวา และข้าวกล้อง ก็จะเกิดหินปูนไปหุ้มปลายประสาท


- อาการบวมลมจากอุจจาระตกค้าง
- การคลุกคลีอยู่ในแวดวงคนเพศเดียวกันทั้งวัน
- คนในครอบครัวไม่ค่อยกอดกัน
- มีพยาธิผิวหนัง
- มีเชื้อราในลำไส้
- ผู้หญิงใช้ผ้าอนามัยที่เป็นเคมีหรือพลาสติก

ถ้าเราเช็คลิสต์ได้มากกว่า 3 ข้อก็เข้าขั้นแล้วค่ะ ... อาการจะเริ่มชาตามมือตามเท้า หลงๆ ลืมๆ  (แต่งงานแล้วก็บอกว่ายังเป็นโสด)

ถ้าเป็นหนักที่หมอเรียกว่าโรคปลอกหุ้มปลายประสาทอักเสบ จะเจ็บจี๊ดเหมือนใครเอามามีดมากรีดตามเนื้อตัวแต่ไม่มีรอยแผล ทรมานมาก

ปกติปลายประสาทคนเราจะสร้างใหม่ตลอดเวลา ไม่จำกัดเพศวัยและอายุ แต่ถ้ามีตัวเสี่ยงปล่อยให้เสื่อม (ไปแล้ว) ขอให้กิน “ใบข่า” ไว้เถอะ แก้ได้แน่นอน


วิธีกิน – เราจะไม่เล่นมุกว่าใส่ปากเคี้ยวๆ แล้วกลืนเด็ดขาด ทั้งที่มันต้องเป็นเช่นนั้น ๕๕๕

ให้ตัดข่ามาทั้งต้น เหลือแต่โคนไว้ให้งอกต่อ จะใบอ่อนใบแก่กินได้โลด มาหั่นซอยเป็นฝอยใส่ในข้าวยำ หรือ ใส่ในเมี่ยงคำแทนมะพร้าวคั่ว ต้นข่าก็สามารถนำมาต้มมาแกงกินอร่อยถ้าติดกินยาก็จัดหนักอัดแคปซูลกินไปเลยสะดวกดี ควบคู่ไปกับการฟังดนตรีบำบัดชุด Deep Healing แทร็ค 5 ที่เว็บนี้ใจดีมีแจกกันไปบ้างแล้ว

เท่านี้แหละ พวกเราก็จะใสปิ๊งเลิกป่วย กลับมาเป็นหนุ่มสาวกันอีกครั้ง เพราะ ใบข่านอกจากสร้างเซลล์ประสาทใหม่แล้ว ยังเพิ่มโกร๊ทฮอร์โมนอีกด้วย

นี่ยังไม่ได้พูดถึงสรรพคุณของการฆ่าพยาธิตัวกลม และ จัดการตัวอ่อนของพยาธิทุกสายพันธุ์เลยนะที่ “ใบข่า” เขาทำได้

ก็บอกแล้วไงว่าจะเขียนเรื่อง“พยาธิ”ในภายภาคหน้า ถ้าลงหมดตอนนี้เดี๋ยวไม่มีอะไรเขียน จบดีกว่า...

.

(หนังสือ ใบคนทีสอ และ ข้าวต้มช่วยได้ สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่ arunsaku@yahoo.com)

ด้วยรัก และ ปรารถนาดี
จาก ศิษย์สาย ๒

กลับขึ้นด้านบน

อ่านตอนอื่น

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่