|
|
|
|
ประสบการณ์การใช้เพนดูลั่มของ Diane Stein
บทที่ 4 ภาวะสมาธิ (หน้า 2)
|
จิตที่นิ่งสงบย่อมเป็นสิ่งที่จำเป็นในการส่ง และ รับสารผ่านเพนดูลั่ม
แต่นั่นยังไม่พอ เมื่อจิตนิ่งสงบแล้ว จะต้องจดจ่ออยู่ที่การรับข่าวสารด้วย
เฉกเช่นวิทยุที่ปิดอยู่ก็ไม่มีเพลงให้คุณฟัง คุณต้องเปิดวิทยุ และ ปรับจูนไปตำแหน่งของช่องสถานี
Diane ฟังจากคนมามากที่ชอบกล่าวว่าพวกเขาไม่มีความสามารถพิเศษทางจิต ซึ่งพอได้ทำงานกับพวกเขาแล้ว Diane พบว่าแทบทุกคนมีพลังทางจิต แต่พวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะ “ฟัง”
พวกเขาต้องทำจิตให้นิ่งสงบ และ จดจ่อ ถึงจะรับพลังทางจิตได้ ซึ่งชาวตะวันตกมักไม่ได้ฝึกมาทางนี้ มันเป็นทักษะที่คนตะวันตกขาดไป และ หลายคนไม่คิดเสียด้วยซ้ำว่ามันจำเป็นอย่างไร
ตามที่ได้กล่าวแล้วว่า การจดจ่อเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการใช้เพนดูลั่ม
แล้วอะไรล่ะที่จะทำให้เราสามารถฝึกฝนตนเองให้จดจ่อได้
คำตอบตรงนี้ก็คือการฝึกสมาธิ (Meditation)
ซึ่งจริง ๆ แล้วก็คือพื้นฐานของความสามารถทางจิตทุกประเภท
การพัฒนาความสามารถทางจิตขึ้นอยู่กับสมาธินี่เอง
การเข้าสมาธิ คือ ทักษะในการปลดปล่อยใจให้ว่าง ทำให้จิตสงบ เพื่อให้ชาวโลกทิพย์สามารถเข้ามาติดต่อได้
สำหรับคนตะวันตก มันเป็นทักษะที่เรียนรู้ได้ยาก แต่นั่นเป็นเพราะพวกเขาพยายามที่จะฝึกมันในแนวทางเดียวกับที่ทำกันในอินเดีย ทิเบต หรือ ญี่ปุ่น ซึ่งชาวตะวันออกเหล่านี้เติบโตขึ้นมาในร่มเงาของศาสนาตะวันออก (ฮินดู พุทธ เซน) ที่สอนเทคนิคในการทำใจให้นิ่งสงบมาตั้งแต่ยังเด็ก
ตรงข้ามกับชาวตะวันตกซึ่งจิตใจวุ่นวายกว่า ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่อึกทึกกว่า ซึ่งก็คงจะพบว่าการทำสมาธิยาก หรือ เป็นไปไม่ได้เลย เพราะพวกเขามาพยายามฝึกเอาเมื่อตอนเป็นผู้ใหญ่แล้ว และ มันก็ช่างแตกต่างจากทักษะที่ต้องการกันในวัฒนธรรมไฮเทค
แม้กระนั้นก็ตาม ทุกๆสิ่งสามารถเรียนรู้ได้ และ หลายคนก็ได้เรียนรู้ไปแล้วพร้อมกับได้รับประโยชน์ต่าง ๆ อันพึงมีพึงได้
ต่อไป Diane จะบรรยายการทำสมาธิแบบตะวันออก
เธอเตือนชาวตะวันตกทั้งหลายว่าอย่าได้คาดหวังที่จะประสบความสำเร็จในครั้งแรกที่ทดลอง เพราะนั่นค่อนข้างจะเป็นนิสัยที่ต้องการอะไรแบบทันอกทันใจ ซึ่งชีวิตมนุษย์ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ถ้าหากคุณทั้งหลายชอบวิธีการทำสมาธิที่จะกล่าวต่อไป ขอให้ฝึกฝนทุกวันวันละ 20 นาที เช้า 10 ก่อนนอนอีก 10 ไม่นานนักคุณก็จะชำนาญ
ความสามารถทางจิตของคุณ และ การติดต่อกับชาวทิพย์จะพัฒนาขึ้นในทุก ๆ ด้าน ความดันโลหิตจะลดลง ถ้าเป็นโรคนอนไม่หลับก็จะหาย คุณจะพบว่าคุณมีความสงบสุขุมขึ้นในทุกด้านของชีวิต สามารถเข้ากับบุคคลรอบข้างได้ดี มีชีวิตยืนยาวขึ้น สุขภาพกาย และใจดีขึ้น
ขั้นแรก เพื่อให้ใจสงบ จำเป็นจะต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เงียบสงบตามลำพัง ปิดเสียงรบกวนทั้งหลายรอบตัว เช่น โทรทัศน์ วิทยุ โทรศัพท์มือถือ
เข้าไปในห้องที่มีแท่นบูชาของคุณ และ ปิดประตูกั้นตัวคุณออกจากคนอื่น ๆ ถ้าคุณมีหมาหรือแมวตามเข้ามาด้วย ก็ปล่อยให้เข้ามาเถิด พวกนี้สามารถสอนคุณเกี่ยวกับการทำสมาธิที่คุณจำเป็นต้องรู้ได้
ถ้าคุณเป็นวิคคานและอยากจะสร้างวงกลมปกป้องรอบตัวคุณก็สามารถทำได้ ต่อไปก็ขอให้จุดเทียนหรือธูป การจุดเทียนสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการกำหนดสมาธิได้
และ ยังเป็นการบอกชาวทิพย์ด้วยว่าคุณกำลังทำอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา
นั่งหลังตรงบนเก้าอี้หรือบนพื้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณรู้สึกสบายแบบไหนมากกว่ากัน ปล่อยแขนขาตามสบาย ไม่ต้องพยายามนั่งขัดสมาธิ (Lotus Position) นอกเสียจากว่าคุณรู้สึกสบายในท่านั้น
นั่งหลังตรง เลือกท่าที่สบายที่สุด และอยู่นิ่งในท่านั้น มองนิ่งไปที่เปลวไฟจากเทียน หายใจเข้า-ออก ยาวๆ ช้าๆ โยกตัวไปข้างหน้าและกลับมาข้างหลังอย่างช้า ๆ ครั้งถึงสองครั้ง จากนั้นก็โยกตัวไปทางด้านข้าง และ กลับมาที่จุดศูนย์กลางตามเดิม ที่ทำเช่นนี้ ก็เพื่อหาจุดศูนย์กลางที่จะตรึงคุณให้อยู่ได้นิ่ง และ สงบ และ มันก็ทำให้คุณรู้สึกสบายด้วย
นำสิ่งที่ยังรบกวนจิตใจคุณออกมา โดยการเรียกขานมัน (ในใจ) ทีละสิ่ง ๆ ในขณะที่เรียกขานมันก็ให้สร้างภาพด้วยว่า สิ่งนั้นได้ถูกเผาไหม้ไปโดยเปลวไฟ หรือ จะเก็บไว้ในกล่องสำหรับเวลาอื่นก็ได้
ใช้เวลากับขั้นตอนนี้เท่าที่คุณต้องการ โดยยังคงรักษาความเชื่องช้าของลมหายใจเอาไว้ หายใจให้ลึก และ เข้าไปให้เต็มปอดยิ่งกว่าที่คุณทำในการนั่งเฉย ๆ ทั่วไป
นั่งนิ่งในท่านั้นอีกสักครู่ และ มองไปที่เปลวเทียน (ถ้าจะใช้น้ำแทนไฟก็ได้ โดยใช้ชามใบเล็ก ที่ควรจะมีสีเข้มไปจนถึงดำ)
ทำตัวคุณให้นิ่งทั้งภายในและภายนอก และกล่าวในใจว่าจิตของคุณในขณะนี้สงบนิ่ง มองไปที่เปลวไฟและเพ่งความคิดทั้งมวลไปที่มัน คุณจะพบว่าคุณกำลังคิดถึงอะไรบางอย่าง ซึ่งทำให้ให้ใจของคุณไม่นิ่ง หรือ ไม่ว่าง
สังเกตในสิ่งที่คุณคิดอยู่ และ ปล่อยให้มันจางหายไป
ในแต่ละความคิดที่แว่บเข้ามาในหัวคุณ ก็แค่รู้ (Notice) และ ปล่อยให้มันดับไป (Will them away)
ในช่วงแรกที่คุณยังใหม่กับสิ่งนี้ ความคิดจะผ่านเข้ามามากมาย อันหนึ่งจากไป อันหนึ่งเข้ามาใหม่ หลายความคิดเข้ามาพร้อม ๆ กัน มีความคิดแทบทุกประเภท รวมถึงความคิดที่ว่าทำไมเราต้องคิดด้วย ก็แค่รู้ และ ปล่อยไป
เมื่อคุณนั่งนานขึ้น ความคิดที่ผ่านเข้ามาจะช้าลง เมื่อคุณมีประสบการณ์มากขึ้นคุณจะพบว่า ความคิดที่หลั่งไหลเข้ามาสามารถที่จะหยุดลงได้ในบางชั่วขณะ และ การที่ความคิดทั้งหลายหยุดลงในบางชั่วขณะนั่นเอง ก็คือจุดประสงค์ของการทำสมาธิแบบตะวันออก
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน คุณจะรู้สึกวิเศษมากในช่วงเวลาเช่นนั้น ชาวพุทธเรียกความคิดที่ผ่านเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่า และ ความยากลำบากในการทำให้หมดไปว่า จิตซุกซนเหมือนลิง (Monkey Mind)
อย่าไปหัวเสียกับความคิดที่ผ่านเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และ การที่คุณไม่สามารถเข้าสู่ภาวะของความสงบได้อย่างทันทีทันใด คุณอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนในการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องแบบครั้งละ 10 นาที วันละสองครั้ง ก่อนที่จะพบกับความว่างสงบอย่างแท้จริงเป็นครั้งแรก
และเมื่อคุณพบกับความว่างที่ว่า มันก็จะคงอยู่เพียงชั่วครู่ และ คุณก็มักจะดิ้นรนที่อยากจะได้มันกลับมาอีกครั้ง ซึ่งก็ต้องเริ่มกระบวนการใหม่ในแต่ละครั้ง ในที่สุดคุณก็จะเรียนรู้การทำสมาธิ กระบวนการทั้งหมดก็มีความหมายในตัวของมันด้วย
ดังนั้นอย่าได้คิดว่าคุณล้มเหลวเมื่อไม่สามารถทำให้ใจของคุณสงบได้ ให้ฝึกฝนทุกวัน ๆ และมันจะง่ายขึ้นเรื่อย ๆ ประโยชน์ทั้งหลายที่จะพึงมีต่อชีวิตคุณก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน ดังนั้นแม้คุณจะคิดว่าคุณล้มเหลว แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย
นั่นก็เป็นการทำสมาธิขั้นพื้นฐานอย่างหนึ่งของตะวันออก มันเป็นสิ่งที่คุ้มค่าแก่เวลาที่ใช้ไป และ คุ้มค่าต่อการทำให้เป็นกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำทุกวัน
แม้วิธีที่เพิ่งกล่าวไปจะเหมาะสมที่สุดกับการนำมาใช้กับเพนดูลั่ม แต่ก็ยังมีวิธีฝึกสมาธิแบบอื่น ๆ ด้วย เช่น การท่องมนตรา การฝึกโยคะ ไท่จี๋ (ไท๊เก๊ก) ชี่กง การสร้างนิมิต หรือ การจับลมหายใจ นอกจากนี้ก็ยังมี การท่องไปในโลกของจิตโดยมีผู้นำทาง (Guided Psychic Journey) การนึกถึงพลังที่เป็นสีวิ่งเข้าวิ่งออกจักระ ซึ่ง Diane จะนำเสนอบางวิธีเพิ่มเติมต่อไป
ไปหน้า 1,< >3, 4
|