| |||||||
| |||||||
สั่งซื้อ หนังสือนิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก ราคา 380 บาท หนุ่มเชื้อชาติจีนหน้าเสี้ยม กำลังขนของพะรุงพะรังจากรถเข้ามาในตัวบ้าน "อาฟ่ง เป็นไงบ้าง ? ไม่เจอตั้งนาน " ซีฟ่งทักทายกลับ "สวัสดี พี่เจิ้น ! พี่ไปเซี่ยงไฮ้มาเหรอ ?" "ใช่ ๆ ฉันมีของฝากมาจากน้าหลิว กับ อาหมิง หลายถุงเลย" เธอช่วยแบ่งเบาอาเจิ้น โดยการคว้าถุงสองใบมาช่วยถือ "มา ! ฉันช่วย ! เอาไปวางบนโต๊ะรับแขกตรงนี้ก่อน" อาเจิ้นวางข้าวของที่หิ้วมาทั้งหมด บนโต๊ะรับแขก แล้วเหลือบมองไปที่บันได "ที่ฉันตื่นเต้นมากที่สุด คือ ฉันจะได้เห็นหน้าพี่ใหญ่อีกครั้ง" ซีฟ่งหัวเราะ "อะไรกัน ? ทำอย่างกับจากกันไปสิบปี" อาเจิ้นพยักหน้าซ้ำ ๆ "จริง ๆ นะ สองปี มันเหมือนกับพวกเราขาดอะไรไป" เขาเหลือบมองไปที่บันไดอีกครั้ง "แล้วนี่พี่ใหญ่ตื่นหรือยัง ? ฉันอยากเห็นหน้าพี่ใหญ่เร็ว ๆ อาฟ่ง ! เธอไปปลุกพี่ใหญ่ได้มั้ย ?" "ไม่ต้องปลุกหรอก พี่ใหญ่ตื่นตั้งแต่เช้าแล้ว เดี๋ยวฉันจะไปบอกว่าพี่เจิ้นมาแล้ว แต่ว่า...." เธอพูดด้วยเสียงที่เบาลง "....อย่าลืมนะพี่เจิ้น เรื่องอะไรที่ฉันบอกว่าไม่ต้องเล่า พี่ต้องไม่เล่า" หนุ่มจีนหน้าโหดพยักหน้าเข้าใจ "พี่ใหญ่ตื่นแล้วก็ดีสิ !" เขายกมือป้องปากแล้วตะโกนเสียงดัง "พี่ใหญ่ ! ฉันมาถึงแล้ว คิดถึงพี่จังเลย !" เสียงตะโกนดังมาจากชั้นบน "ขึ้นมาเลย !อาเจิ้น ฉันอยู่ข้างบน !" อาเจิ้นมีสีหน้าแสดงถึงความดีใจอย่างไม่ต้องปิดบัง เขารีบเดินตรงไปที่บันได แล้วก้าวขึ้นไปชั้นบน รูปร่างของพี่ชายนอกสายเลือด ที่ดูผอมกว่าครั้งสุดท้ายที่จำความได้สักเล็กน้อย ผมเกรียนสั้นเต่อ แต่ใบหน้าผ่องใส และ มีรอยยิ้ม ทำให้อาเจิ้นควบคุมสติไม่ได้ เขาถลาเข้าไปกอด "สิงห์ต้าลู่ ! " แอนดี้โอบสองมือไปด้านหลัง แล้วตบบ่าของลูกน้อง น้ำตาที่ไม่สามารถกลั้นไว้ได้ หลั่งออกมาจากตาของหนุ่มหน้าเสี้ยม แอนดี้คลายวงแขนออก "แกยังไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่เลยนะ อาเจิ้น !" "สองปีกว่าเอง จริงสิ ! มีใครติดต่อกับพี่ใหญ่บ้าง ตอนนี้ ?" "เอนกคนเดียวเท่านั้น !" อาเจิ้นสั่นหัว "ยามที่พี่พร้อมไปหมดทุกอย่าง มีคนมากมายอยู่ข้างพี่ใหญ่ พวกเขาได้รับการช่วยเหลือจากพี่ แต่ยามนี้ พวกเขาหายไปไหนกันหมด ?" แอนดี้ส่งยิ้มให้ "ยามนี้ ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว ฉันไม่มีธุรกิจใด ๆ เงินฉันก็ไม่มีเหลือ อาฟ่งเองก็มีรายได้พอแค่ดูแลตัวเอง" อาเจิ้นพยักหน้า "ฉันรู้ อาฟ่งเล่าให้ฉันฟังทุกอย่าง พี่ใหญ่เคยบอกเมื่อสองปีก่อนว่า เงินที่มีเหลืออยู่ทั้งหมดในตอนนั้น สุดท้าย มันจะไม่เหลืออะไร แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริง แต่ พี่ใหญ่คงไม่โกรธอาฟ่งใช่มั้ย ที่เธอทำธุรกิจไม่สำเร็จ ทำให้ต้องเสียเงินทั้งหมดไป ?" แอนดี้หัวเราะ "ตลกน่า ! แกเองก็เคยทำผิดพลาดมาหลายครั้ง ฉันเคยโกรธแกหรือเปล่าล่ะ ?" "นั่นสินะ ! พี่ใหญ่ก็คงเป็นพี่ใหญ่เหมือนเดิม อภัยให้น้อง ๆ ได้เสมอ แล้วตอนนี้ พี่ใหญ่คิดจะทำอะไร มีอะไรให้ฉันช่วยได้บ้าง ?" แอนดี้เอื้อมมือไปจับต้นแขนของอาเจิ้น "ขอบใจมาก อาเจิ้น ! ถ้าแกยังเคารพนับถือฉันอยู่ ฉันคงมีงานให้แกช่วย ฉันจะต้องกลับเข้าไปในธุรกิจไตรสรณ์" ลูกน้องหน้าโหดเอียงคอ "กลับเข้าไป ! หมายถึงอะไร ? พี่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจของพวกเขาด้วยเหรอ ?" "นั่นเป็นสิ่งที่ฉันคงต้องค่อย ๆ เรียนรู้เหมือนกัน ว่าฉันเคยทำอะไรให้ไตรสรณ์มาก่อน นอกจากแค่เป็นครูสอนภาษาจีน แต่ตอนนี้ ฉันต้องเข้าไปมีบทบาทมากกว่านั้น และ ฉันจะให้แกช่วยเมื่อถึงเวลา" อาเจิ้นไม่ถนัดในการรับรู้เรื่องราวใด ๆ ที่สลับซับซ้อน เขารู้ตัวเองดี "ได้ แน่นอน ! พี่ก็รู้ว่าหัวสมองของฉันนั้น เล็กเท่ากับสมองของกบตัวนึง พี่ไม่จำเป็นต้องเล่าแผนทั้งหมดให้ฟังหรอก เพราะฉันคงทำความเข้าใจมันไม่ได้ เพียงแต่ พี่ใหญ่แค่บอกมาว่าจะให้ฉันทำสิ่งใด ฉันจะทำตามที่พี่บอกทุกอย่าง" พี่ใหญ่หัวเราะ "หัวสมองแกเท่ากับกบเหรอ ? ฉันไม่ใส่ใจหรอก แต่หัวใจแกน่ะ ใหญ่กว่าช้างซะอีก นี่สิที่ฉันชอบ ฮ่า ๆๆ" แอนดี้หัวเราะชอบใจ อาเจิ้นมีรอยยิ้มเจื่อน ๆ "สมบัติของพี่ใหญ่ก็คงเหลือแค่ที่ดินกับบ้านหลังนี้เท่านั้น พี่ใหญ่คงต้องมาเริ่มต้นใหม่กับลูกน้องที่โง่ ๆ แบบฉัน โชคดีที่เอนกยังฉลาดกว่าฉันนิดหน่อย แต่เราเหลือกันอยู่แค่นี้ จะทำอะไรได้มากขนาดไหนกัน ?" "แค่นี้ก็แค่นี้ ถนนจะยาวไกลสักเท่าไร แต่เราก็เดินได้ทีละก้าวเท่านั้น ฉันไม่ได้ต้องการให้คนเก่งมาอยู่รวมกัน แต่ฉันต้องการเพียงคนที่เข้าใจกันได้เท่านั้น ที่ดินที่ฉันต้องการ สุดท้ายแล้วมันก็เพียงแค่นี้" แอนดี้ยกมือ ตีกรอบเป็นรูปสี่เหลี่ยม ครอบตัวเขา อาเจิ้นขมวดคิ้ว ไม่มีคำโต้ตอบ "คนเราจะต้องการที่ดินอะไรมากมาย สุดท้ายก็แค่ที่กว้างยาวเท่ากับหลุมฝังศพ " แอนดี้ตอบ ลูกน้องเก่าแก่พยักหน้าเข้าใจ "ก็จริง ! ถ้าอย่างนั้น เรามีกันเพียงแค่นี้ ก็แค่นี้ เรามาเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน พี่ใหญ่คงไม่รังเกียจมนุษย์สมองกบอย่างฉัน แต่ฉันกลับคิดว่า คนที่มีสมองโตเกือบเท่าพี่ใหญ่แล้ว คือ อาฟ่ง" พี่ใหญ่มีสีหน้าประหลาดใจ "อาฟ่งน่ะเหรอ ?" ************************************************************************************* “ สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต หากข้าพเจ้า ฐิติชญา กัญจนพรหม เคยอธิษฐาน หรือ เคยสาบานจะติดตามเป็นคู่ครองข้ามภพข้ามชาติกับท่านใดมา ข้าพเจ้าขอถอนคำอธิษฐาน และ คำสาบานนั้น ขออนุญาตมีคู่ครองในชาติปัจจุบัน ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน" สมาธิซึ่งอยู่ในระดับที่พอดีในคืนนี้ ไม่แนบแน่นจนเกินไป ไม่หละหลวมว่อกแว่ก แต่วนเวียนอยู่แถวอุปจารสมาธิ ทำให้เกิดมโนภาพทางจิต เชื้อของมโนมยิทธิที่เธอเคยฝึกฝน ทำให้ภาพของหลวงพ่อที่อุทัยธานีซึ่งลาสังขารไปยี่สิบกว่าปีแล้ว ปรากฏขึ้นในชุดพระสงฆ์ห่มจีวรเหลือง สวมแว่นตา มือถือไม้เท้า พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พยักหน้าเพียงหนึ่งครั้ง แล้วภาพนั้นก็หายไป เธอรู้ด้วยจิตในทันทีว่า สิ่งที่เธอพยามเพียรอธิษฐานมาตลอด 1 ปี คืนนี้ได้มีภาพยืนยันจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เธอเคารพบูชาว่า คำอธิษฐานของเธอได้สัมฤทธิ์ผล เธอสามารถเป็นอิสระจากความผูกพันในอดีตชาติทั้งหลายแหล่ แล้วสามารถมีครอบครัวกับคนที่เธอรักในชาติปัจจุบัน ใครในอดีตที่เคยผูกพัน ดังคำบอกเล่าของท่านแม่ของยิ้ม จะมีจริง หรือ ไม่มีนั้น เธอไม่อาจยืนยันได้ ใครคนนั้น ถ้ามีจริง อาจจะเป็นผู้ชายคนนั้นที่เธอเคยประทับใจ หรือ ไม่ใช่ เธอก็ไม่แน่ใจ แต่เรื่องเหล่านั้นมันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อ ณ บัดนี้ ผู้ชายที่เธอรัก และ ทุ่มเทหัวใจให้หมดนั้น มีตัวตนอยู่จริง และ เธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นก็รักเธอหมดหัวใจเหมือนกัน นั่นคือความจริงที่เธอสัมผัสได้ในปัจจุบัน ในเมื่อคำอธิษฐานขอปลดปล่อยพันธนาการในอดีต ได้สัมฤทธิ์ผลแล้ว การกลับมาเมืองไทยในครั้งนี้ เธอจึงไม่มีความจำเป็นใด ๆ จะต้องกังวลเรื่องความสัมพันธ์กับคนอื่นใด ที่จะมากระทบชีวิตคู่ในอนาคต เธอเหลือบมองดู ซิกเซาเออร์ รุ่นพี 226 ....ปืนพกออโต้พร้อมกล่องบรรจุที่วางอยู่บนเตียง รอยยิ้มปรากฏที่ใบหน้า พร้อมกับการสั่นหัว นี่ถ้าเธอนำอาวุธปืนเข้าไปในบ้าน แล้วคุณพ่อเปิดห้องมาเจอ ท่านอาจจะหัวใจวายตายไปเลยก็ได้ การเช่าห้องคอนโดแยกมาอยู่เอง จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด แม้ระยะยเวลาที่จากไปนั้น เพียงแค่สองปี ทัศนคติของคุณพ่อที่มีต่อตัวเธอ ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ถึงแม้คุณพ่อจะไม่ได้เปิดใจพูดอย่างตรงไปตรงมา แต่ท่าทีที่ปฏิบัติกับลูกสาวตั้งแต่ก้าวเท้ากลับมาจากเยอรมัน บ่งบอกอย่างชัดแจ้งว่า ท่านยอมรับในอิสรภาพการเลือกทางเดินชีวิตของลูกสาวอย่างมีความสุข เสียงเรียกจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น สัญญาณเรียกเข้าที่เธอตั้งไว้ให้เฉพาะน้องสาวคนพิเศษ ทำให้เธอรู้ว่าใครกำลังโทรมา แต่จะว่าไป.... จะมีใครสักกี่คน ที่รู้จักเบอร์โทรศัพท์ใหม่เบอร์นี้ของเธอ ? "ฮัลโหล ! สวัสดีจ้ะ น้องหงส์ !" "สวัสดีค่ะ พี่ทอม ! หงส์โทรมากวนพี่ทอมหรือเปล่า ? พี่ทอมยังไม่นอนใช่มั้ยคะ ?" "ยังจ้ะ ! หงส์อยู่ที่ไหน ? คืนนี้มาค้างที่คอนโดกับพี่มั้ย ?" "คืนนี้คงต้องดูแลพี่แอนดี้ค่ะ หงส์สลับเวรกันกับพี่เอนก คืนนี้เป็นคืนของหงส์" ทอมพยักหน้ารับรู้ "อาการปวดท้องเป็นยังไงบ้างแล้ว ?" "วันนี้ไม่มีปัญหาค่ะ แต่มันไม่หายขาดหรอกค่ะ หงส์ทำใจไว้แล้ว" ทอมนึกถึงเพื่อนเก่าที่เคยสนิทสนมในอดีต "หงส์ยังต้องเจอรุ่งอีกหรือเปล่า ?" "พี่รุ่งเหรอคะ ? ก็... ไม่แน่เหมือนกันค่ะ พี่รุ่งไม่ได้รู้จักกับหงส์โดยตรง แต่รู้จักผ่านทางคุณธรรม์ เท่าที่เจอกัน ก็โดยบังเอิญ พี่รุ่งไม่รู้ล่วงหน้าหรอกว่าจะเจอหงส์" "อือ !" เสียงทอมตอบกลับ "พี่ทอมแน่ใจนะคะ ว่าไม่อยากเจอกับพี่รุ่ง ? พี่สองคนเคยสนิทกันมาไม่ใช่เหรอคะ ? ไม่คิดถึงกันบ้างเหรอ ?" เสียงถอนหายใจของทอม ดังเข้ามาในสาย "ไม่รู้สิ ! ความรู้สึกในอดีตมันจาง ๆ ไปแล้ว สองปีที่ผ่านมา พี่ทุ่มทุกอย่างให้กับงาน จนไม่มีเวลานึกถึงคนอื่น งานที่พี่ทำมันเป็นอีกโลกหนึ่งที่แยกพี่ออกจากโลกในอดีต พอมานึกถึงเพื่อน ๆ ในอดีต มันก็ยังจำได้ว่า ครั้งนึงเราเคยสนิทกัน แต่ตอนนี้บรรยากาศมันเปลี่ยนไป ..... เหมือนกับ พี่ได้กลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ " หงส์หัวเราะเบา ๆ "ใจของพี่มีแต่พี่จิตรล่ะมั้ง ! แฟนคนแรกก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะ ! เหมือนกับมีชีวิตใหม่ " "เหรอจ๊ะ ? พี่คงมีประสบการณ์สู้น้องหงส์ไม่ได้หรอก" เธอทิ้งคำหยอกแล้วก็หัวเราะตาม "จริง ๆ นะคะ ! พี่ทอมเองอาจจะไม่รู้ตัว แต่อีเมล์ที่พี่ทอมส่งมาคุยกับหงส์มาตลอด มีแต่เรื่องพี่จิตรคนเดียว พี่ทอมต้องใช้ชีวิตเจอกับเค้าทุกวัน เช้าตื่นมาก็เจอหน้ากัน ก่อนนอน ก็เจอหน้าเค้าเป็นคนสุดท้าย ในหัวใจจะมีอะไรเหลือ" ทอมพยักหน้าให้กับตัวเอง "มันก็จริงเหมือนกันนะ ! แต่.... ก็ทำให้เรามีความสุขโดยไม่มีใครเดือดร้อน แล้วน้องหงส์ล่ะ เจอคุณธรรม์เค้าบ่อย ๆ เราคิดยังไงกับเค้าบ้างนะ ? วันก่อนที่เค้ามาส่งน้องหงส์ที่คอนโด ดูท่าทางเค้าก็เป็นห่วงเรามากนะ" "เหรอคะ ? คุณธรรม์ก็เป็นคนดีค่ะ" ทอมหัวเราะเสียงดัง "ฮ่า ๆๆๆ ! ร้อยทั้งร้อย ! เอาแล้ว !" หงส์หัวเราะตามเพื่อนรุ่นพี่ "พี่ทอมขำอะไรเหรอคะ ?" "ร้อยทั้งร้อยของคนที่ตอบแบบนี้น่ะ แสดงว่าไม่ได้ถูกใจเค้า พี่ฟังเรื่องพวกนี้จนเบื่อแล้วล่ะ เวลามีผู้ชายมาจีบ ถ้าลองฝ่ายหญิงตอบกับเพื่อนว่า เค้าก็เป็นคนดีเนี่ย... แปลว่า ยังไม่โดนใจ !" หงส์หัวเราะอีกครั้ง "ใครกันนะที่ว่าพี่ทอมไม่มีประสบการณ์ ?" "ไม่ใช่ว่าหงส์ดันไปชอบไอ้รุ่งเข้าให้ล่ะ !" เพื่อนรุ่นพี่สวนกลับมาแบบแบน ๆ "พี่ทอมอยากให้เป็นยังงั้นเหรอคะ ?" รุ่นพี่รีบตอบสวนกลับมา "เปล่า ๆ ! เรื่องพวกนี้มันต้องเกิดขึ้นมาจากใจของตัวเอง พี่ไม่ชอบไปยุ่งเรื่องชาวบ้านหรอก แล้วยิ่งไอ้รุ่งด้วยนะ พี่จะไม่มีวันไปเชียร์ใครให้มาชอบมันหรอก เพราะกลัวเสียชื่อ" "เค้าแย่ยังงั้นเลย !" "ไม่ใช่แย่ ! แต่มันเป็นคนที่มีนิสัยแปลก ๆ เราเดาไม่ได้ว่าผู้หญิงแบบไหนจะชอบคนแบบนี้ ขืนไปแนะนำคนอื่นให้ แล้วเค้าเกิดรับไม่ได้ ก็จะมาว่าคนเชียร์ แต่ถ้าคนที่จะชอบมันนะ ไม่ต้องเชียร์ ได้อยู่ใกล้มันแล้วก็ชอบเลย ยังงี้ซะมากกว่า เรื่องของคนคู่กันน่ะ ไปจับคู่ให้เค้าไม่ได้หรอก ต้องให้เค้าจับกันเอง" หงส์พยักหน้า "ใช่ค่ะ ! ถ้าจับคู่ให้คนอื่นได้ หงส์คงจับคู่ให้พี่ทอมไปแล้ว" สาวรุ่นพี่อมยิ้ม เธอคงไม่ถามน้องสาวคนนี้ว่า อยากจะจับเธอไปคู่กับใคร หงส์พูดต่อ "ถ้าพี่ทอม ไม่ใช่พี่สาวของหงส์ แล้วจะมีใครอีกล่ะ ?" ทอมยังคงจำได้ถึงเรื่องคำทักทายอนาคตของพี่ชายหงส์ "ไว้เวลามาถึง เราก็อาจจะรู้เองก็ได้นะ แต่ ที่เราสนิทกันแบบนี้ หงส์ยังไม่เห็นว่าพี่เป็นพี่สาวหรือไง ?" อีกฝ่ายรีบแก้ตัว "ไม่ใช่ค่ะ ไม่ไช่ ! พี่ทอมเปรียบเสมือนพี่สาวของหงส์แน่นอนค่ะ แต่หงส์หมายถึง พี่สาวของหงส์ในอดีต ซึ่งต้องเกี่ยวพันกับพี่แอนดี้ด้วย พี่สาวที่กำลังตามหาหงส์กับพี่แอนดี้ พักหลัง หงส์นึกถึงเรื่องนี้บ่อยขึ้น เพราะ หลายอย่างที่พี่แอนดี้เคยพูดไว้ตั้งแต่สองปีก่อน มันเริ่มเป็นความจริงหมดทุกอย่าง สิ่งที่พี่แอนดี้พูดไว้ ยังไม่พลาดเลยซักเรื่อง" ทอมเข้าใจความเป็นมาของน้องสาวคนนี้มาตลอดสองปี "เอาน่า ! น้องหงส์ ! ถึงเวลาอันควร เราก็คงได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้ ได้เจอในสิ่งที่ถูกกำหนดไว้ ไม่มีใครรู้อนาคตล่วงหน้าหรอก เหมือนกับตัวพี่เอง ก่อนจะได้งานที่นี่ เพื่อนพี่เค้าดูเรื่องเนื้อคู่ให้ว่า พี่จะเจอเนื้อคู่ในปีนั้น พี่ก็คิดวนเวียนอยู่ตั้งนานว่า เนื้อคู่คือใคร น่าจะเป็นคนโน้น น่าจะเป็นคนนี้ แล้วต่อมา พี่ก็มาได้งานนี้ แล้วพี่ก็ได้เจอพี่จิตรในปีนั้นจริง ๆ เวลาที่เราได้พบสิ่งที่ใช่ เราก็จะรู้ได้เองล่ะ น้องหงส์ ! การวิตกกังวลไปล่วงหน้า ไม่ได้ช่วยอะไรเลย" หงส์จับใจความที่พี่สาวคนนี้พูดได้อย่างชัดเจน แต่ในใจเธอ ก็ยังอยากให้พี่สาวในอดีตคนนั้น เป็นพี่สาวที่เธอกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ด้วย ณ ขณะนี้ *********************************************************************************************** อ่านหน้า > 2 , 3 |
|||||||