| |||||||
| |||||||
สั่งซื้อ หนังสือนิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก ราคา 380 บาท ประยงค์วางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ แล้วเริ่มเล่าเรื่องราว "ปีสองพันห้าร้อยยี่สิบสาม เธอเป็นนักศึกษารุ่นแรกของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชซึ่งเพิ่งเปิดรับนักศึกษาเป็นปีแรก เธอเข้าเรียนในคณะศึกษาศาสตร์ เพื่อนร่วมชั้นเรียนเรียกเธอว่านิด จากการสอบถามเพื่อนร่วมชั้นเรียนในอดีตของเธอสองคน บอกตรงกันว่า เธอมีบุคลิกที่มั่นใจตนเอง กระฉับกระเฉง รักความยุติธรรม เป็นคนหัวก้าวหน้า กล้าทักท้วงในสิ่งที่เห็นว่าไม่ถูกต้อง ในสมัยเรียน เธอกล้าลุกขึ้นยกมือค้านการสอนของอาจารย์ เมื่อเธอเห็นว่าการสอนนั้นไม่ถูกต้อง ในสมัยนั้น ต้องถือว่าการกระทำเพียงแค่นี้ ก็นับว่ากล้ามาก" นักสืบอาชีพหยิบรูปภาพใบหนึ่งวางไว้บนโต๊ะ "นี่เป็นรูปของเธอถ่ายกับเพื่อนร่วมชั้นที่มหาวิทยาลัย" ประยงค์ชี้มืออธิบายรูป "ผู้หญิงสองคนนี้ เป็นเพื่อนร่วมห้องของคุณนิด ผู้ชายคนนี้ชื่อโกวิท เป็นคนที่มาจีบวิภา คือ คนนี้ ซึ่งเป็นเพื่อนของเธอ โกวิทเป็นลูกคนรวย ขับรถสปอร์ตสองประตู ประเด็นที่น่าสนใจ คือ สองปีถัดมา โกวิทมีเรื่องเลิกกับวิภา ทำให้วิภาเสียใจมาก แล้วคุณนิดเธอเห็นว่าฝ่ายชายไม่ได้รักผู้หญิงจริงตั้งแต่ต้น ใช้ความร่ำรวยเพื่อหลอกผู้หญิงแล้วตั้งใจทิ้ง คุณนิดเป็นตัวแทนของวิภา เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม แล้วก็มีเรื่องโต้ตอบกันมากมายระหว่างคุณนิดกับโกวิท สุดท้าย จะด้วยเหตุผลใดก็ไม่ทราบ เพราะคนที่เล่านั้น ก็จำรายละเอียดไม่ได้มากนัก โกวิท ก็ยอมขอขมาต่อคุณวิภา" ผู้ฟังพยักหน้าเข้าใจความ ประยงค์ยกมือขึ้นปิดปาก แล้วไอ ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มน้ำ แล้วเล่าต่อ "คุณนิดเริ่มทำงานด้วยการเป็นครูที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของเธอประเด็นที่สำคัญก็เป็นเรื่องที่ใกล้เคียงกับเรื่องเดิม คือ การต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เริ่มต้นด้วย เธอมีเรื่องกับผู้ช่วยครูใหญ่ที่โรงเรียนในพิษณุโลก เพราะผู้ช่วยครูใหญ่คนนั้นมีพฤติกรรมใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม กลั่นแกล้งครูคนอื่น ครูคนอื่น ๆ ไม่เคยถือสาเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะผู้ช่วยครูใหญ่คนนี้ ถือว่ามีหน้าตา มีฐานะในเขตนั้น ขนาดที่ครูใหญ่ยังต้องเกรงใจ แต่คุณนิดก็กล้าเปิดฉากการเป็นศัตรูกันกับผู้ช่วยครูใหญ่ อยู่ได้ไม่ถึงสองปี คุณนิดก็ต้องลาออกจากโรงเรียนนั้น แล้วไปสมัครเป็นครูที่โรงเรียนในจังหวัดสุโขทัยแทน เรื่องราวหลังจากนั้น ไม่มีข้อมูล จนกระทั่งได้ย้ายมาเป็นครูที่โรงเรียนอำไรวิทยา ซึ่งผมได้ข้อมูลมาเยอะมาก" ประยงค์เริ่มไออีกครั้ง เขารีบหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาปิดปาก นักสืบอาชีพก้มลงหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลขึ้นมาวางบนโต๊ะ "รายละเอียดทั้งหมด อยู่ในนี้" นายจ้างพยักหน้า "ขอบคุณครับ รายละเอียดผมจะค่อย ๆ อ่านเอง ขอให้น้ายงค์เล่าย่อ ๆ ถึงประเด็นสำคัญของผู้หญิงคนนี้ก็พอ" "ประเด็นสำคัญ คือ ไม่ว่าคุณนิดจะไปทำงานที่ไหน จุดยืนของเธอไม่เคยเปลี่ยน คือ เธอเป็นคนรักความยุติธรรม เกลียดคนโกง เกลียดคนใช้อำนาจ ที่อำไรนี้ มีประเด็นที่น่าสนใจ คือ เมื่อเธอเป็นครูฝ่ายปกครอง ซึ่งตามปกติแล้ว ครูฝ่ายปกครองก็จะมีปัญหากับเด็กเกเร ที่ผิดระเบียบ ไม่อยู่ในโอวาท แต่คุณนิดเธอแปลก ประวัติของเธอ จะมีปัญหากับเฉพาะเด็กที่ผู้ปกครองเป็นคนที่มีชื่อเสียง หรือ เป็นคนมีอิทธิพล ส่วนเด็กที่มีปัญหาจริง ๆ เช่น เด็กที่พ่อแม่ยากจน แล้วมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมเกเร เธอกลับเข้าใจ เป็นที่ปรึกษา แล้วก็ให้โอกาสเด็กเหล่านี้ จากการที่ถามครูในโรงเรียนอำไรจำนวนสี่คน ทุกคนให้ข้อมูลเหมือนกันว่า ครูนิดเป็นครูที่เหล่าคุณครูต่าง ๆ นับถือรักใคร่ เธอเป็นครูที่ไม่กลัวอิทธิพลใด ๆ เธอไม่เคยกลัวผู้ปกครองของนักเรียน ว่าจะมีเงินมากมาย มีอิทธิพลขนาดไหน ถ้าหากส่งลูกหลานมาเป็นนักเรียนในโรงเรียนอำไร เด็กทุกคนจะต้องอยู่ในกฏข้อบังคับเดียวกัน แต่ผู้ปกครองของเด็กคนไหน มีชื่อเสียงในทางเสีย มีอิทธิพลในทางไม่ดี เด็กนักเรียนคนนั้น กลับจะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ" ประยงค์หยิบเอกสารฉบับหนึ่งออกมาจากซองเอกสาร "นี่เป็นข้อความที่ถอดมาจากวิดิโอปฐมนิเทศน์ครู พูดโดยครูนิด ในฐานะครูใหญ่ เมื่อสามปีที่แล้ว ประเด็นที่สำคัญ ขอให้ดูที่ข้อความที่ขีดเส้นใต้สีแดง" นายจ้างมองตามที่นักสืบแนะนำ ประยงค์พูดต่อ "อ่านข้อความตรงนั้นแล้ว คงพอเข้าใจทัศนคติของครูนิด เธอมีจุดยืนที่มั่นคงมาตลอด" นายจ้างหยิบเอกสารขึ้นมา แล้วอ่านข้อความที่ถูกขีดเส้นใต้ไว้ "... คนรวย คนจน คนมีอำนาจ คนดี คนเลว คนไม่มีอำนาจ ย่อมปะปนกันไปหมด คนรวยย่อมมีทั้งดี และ เลว คนจน ก็เช่นกัน ย่อมมีทั้งดี และ เลว แต่ความน่ากลัวของคนรวย หรือ คนที่มีอำนาจ และ เลว คือ พวกเขาสามารถใช้อำนาจ เพื่อเปลี่ยนกระบวนการยุติธรรมได้..." นายจ้างมองหน้านักสืบ "นี่คงเป็นใจความสำคัญที่เป็นประเด็นในใจของเธอ ...คนที่มีอำนาจ และ เลว !" นักสืบอาวุโสพยักหน้าช้า ๆ "ใช่ครับ ! ผมว่า.... คุณครูยาใจคนนี้ จัดว่าเป็นคนที่ดีทีเดียว" นายจ้างหัวเราะเบา ๆ "อะไรกัน ดีทีเดียว ? อย่างนี้ ต้องจัดว่า เป็นคนที่ดีมากด้วยซ้ำ ! เธอเป็นคนที่สังคมไทยขณะนี้ กำลังต้องการ" ประยงค์เริ่มไอติดต่อกัน นายจ้างยกมือขึ้นห้าม "ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว น้ายงค์ ! ถ้ามีอะไรสงสัย ผมจะถามน้าทีหลัง เดี๋ยวผมจะดูอาการให้นะ เทน้ำในขวดดื่มให้หมดซะ !" ใบหน้าของนักสืบประยงค์เต็มไปด้วยเลือดฝาดสีแดง เพราะฤทธิ์ของอาการไอ เขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นปิดปาก เสียงคำถามลอดมาจากผ้าเช็ดหน้า "คุณแอนดี้ รักษาคนป่วยได้เหรอครับ ?" นายจ้างหัวเราะ "ได้สิ ! เดี๋ยวนี้ผมเป็นหมอผีแล้ว เรื่องเจ็บป่วยน่ะ ใครจะมาเชี่ยวชาญเท่าผม ? ป่วยได้ทุกวัน !" เขาพูดหยอกล้อกับนักสืบหัวเห็ดคนสนิท ที่เขาไว้ใจว่าจ้างใช้งานมาเป็นเวลาเกือบสิบปี ภาพของควันสีดำเริ่มปรากฏเป็นเงาทาบทั่วร่างของนับสืบประยงค์ มโนภาพนี้ทำให้แอนดี้เกิดอารมณ์หม่นหมองไปชั่วขณะ แต่จิตที่ฝึกปรือมาอย่างดี ทำให้เกิดอารมณ์อุเบกขาตามมาได้ในชั่วอึดใจ "ลูกสาวน้ายงค์ได้งานทำแล้วหรือยัง ?" ประยงค์พยักหน้า "ได้แล้วครับ ! แต่เป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราว สัญญาแค่หกเดือน ระหว่างนี้ถ้ามีเวลาก็คงหางานใหม่ไปเรื่อย ๆ" แอนดี้พยักหน้ารับรู้ "ครั้งหน้า ผมจะนัดน้ายงค์เป็นวันอาทิตย์แล้วกัน แล้วน้ายงค์พาลูกสาวมาด้วย สะดวกมั้ย ?" นักสืบอิสระพยักหน้า "ได้ครับ ! คุณแอนดี้บอกผมล่วงหน้าแล้วกัน" ***************************************************************************************** 1 <อ่านหน้า >3 |
|||||||