| |||||||
| |||||||
สั่งซื้อ หนังสือนิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก ราคา 380 บาท "อาจารย์ครับ สรุปว่าพรุ่งนี้ สิบโมงเช้านะครับ คุณแอนดี้จะรอพบอาจารย์ที่เรือนอภิญญาฆราวาส" "ได้ค่ะ คุณน้อย ! แล้วพรุ่งนี้คุณน้อยเข้าไปด้วยหรือเปล่าล่ะ ?" "ไม่ได้เข้าครับ ! คุณแอนดี้เป็นคนที่จะสามารถช่วยอาจารย์ได้ ลองคุยกับเค้าดูนะครับ" อาจารย์หญิงถอนหายใจเฮือกเล็ก ๆ "เฮ้อ... ! ไม่รู้เด็กไปทำกรรมอะไรไว้ จู่ ๆ ถึงได้ป่วยเหมือนกับถูกยาสั่งแบบนี้ ครูเองก็เป็นห่วงเด็กมากเหมือนกัน แม่ของเด็กคนนี้เป็นคนอุปถัมภ์เรือนอภิญญาฆราวาสมาตลอด นี่ล่าสุด เธอก็บริจาคแอร์สองตัวมาติดห้องชั้นบนของเรือน สรุปว่า คุณน้อยไม่ต้องไปหาเงินที่ไหนมาซื้อแอร์แล้ว งานนี้ครูหาได้แล้ว อนุโมทนาด้วยนะคุณน้อย" "โอว ! ขอบคุณมากครับอาจารย์ อนุโมทนาบุญด้วยครับ ดีจัง ! ต่อไปนี้วันไหนเป็นวันสอนกรรมฐานใหญ่ ก็แบ่งคนไปห้องชั้นบนได้แล้ว" "นั่นน่ะสิคะ ! แต่ถ้ามีคนสนใจมาเรียนกรรมฐานสม่ำเสมอมากกว่านี้ก็จะดี นอกจากงานใหญ่แล้ว เรามีคนมาเรียนกันอยู่เป็นพัก ๆ เท่านั้น ทั้ง ๆ ที่พื้นที่ของเรือนก็ใหญ่โต เสียดายไม่ได้ใช้งาน" "อีกไม่นาน น่าจะมีคนศรัทธามากขึ้นนะครับ" "เพราะคุณแอนดี้นี่น่ะเหรอ ? อือ... ! ถ้าเป็นศิษย์ที่หลวงพ่อสอนส่งมา ครูก็มั่นใจว่าเขาจะต้องมาสร้างอะไรดี ๆ ให้กับเรือนอภิญญาฆราวาสได้" "ที่เรามีคนศรัทธาได้มาถึงตอนนี้ ก็ได้อาจารย์เป็นหัวแรงใหญ่ ถ้าเราไม่ได้ความกรุณาของอาจารย์ เราก็คงไม่มีเรือนไม้นี้ตั้งแต่ต้นแล้วล่ะครับ" อาจารย์หญิงหัวเราะ "โอย... ! ถ้าจะเทียบกับความใจบุญของครอบครัวกิจบูรณาแล้ว ครูเทียบไม่ติดหรอก ทุกวันครูก็สวดมนต์ขอพรจากพระท่าน ขอพรจากหลวงพ่อ ให้คุ้มครองครอบครัวกิจบูรณา สิ่งที่ครอบครัวของคุณน้อย ได้ทำเพื่ออุปถัมภ์วัดนาคโขง อุปถัมภ์หลวงพ่อสอน มันเป็นทานที่ยิ่งใหญ่ที่เกินกว่ากำลังของคนธรรมดา ครูดีใจที่ได้มารู้จักคุณหญิงกับครอบครัว พูดถึงครอบครัวกิจบูรณาทีไร ครูก็อดจะมีปีติไม่ได้" "เราเปรียบเสมือนครอบครัวเดียวกันนะครับอาจารย์ ถึงได้มารู้จักกันเพื่อเกื้อกูลกัน ผมเอาใจช่วยนะครับ พรุ่งนี้ขอให้คุณแอนดี้ช่วยให้อาการของเด็กดีขึ้นได้" "ถ้าได้ยังงั้นก็เยี่ยมน่ะสิ ! ขอบคุณนะ คุณน้อย" ************************************************************************************************ แดดยามเช้าวันเสาร์กำลังส่องแสงสีส้มอ่อน ๆ ลงมาทั่วบริเวณเรือนไม้ สิงห์ในชุดดำ ลงจากประตูหน้าฝั่งซ้ายของรถกระบะ เขาพูดกับโชเฟอร์ "น้าชวนช่วยเอาชุดที่แขวนไว้ในรถ ขึ้นไปไว้บนห้องโถงชั้นสองด้วยนะครับ เดี๋ยวตอนบ่ายผมต้องเปลี่ยนชุด" พนักงานขับรถอาวุโสวัยเกือบหกสิบปีพยักหน้ารับรู้ แอนดี้เดินตรงไปยังฝั่งขวาด้านหน้าของเรือนไม้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลพระภูมิ เขาหยุดยืนที่หน้าศาลพระภูมิ แล้วยกมือไหว้ "ท่านปู่ใหญ่ ! วันนี้เป็นวันสำคัญวันนึง ช่วยผมด้วยนะครับ" เสียงที่ทุ้มใหญ่ และ กังวานของเทวดาเจ้าที่ ดังขึ้น "เอ็งทำใจให้สบายเถอะ ! ข้าดูแลอยู่ ไม่มีเรื่องเดือดร้อนในวันนี้แน่ ๆ" เขายกมือไหว้อีกครั้ง "ครับ ! ผมฝากท่านปู่ใหญ่ด้วยนะครับ" แล้วหันหลังเดินตรงเข้าเรือนไม้ เสียงสหายพรหมคู่ใจดังขึ้น "งานสำคัญ แกก็ยังใส่ชุดดำ แกจะไปงานศพใครหรือไง ?" แอนดี้หัวเราะหึ ๆ ในใจ "ผมไม่ได้ไหว้วานให้ท่านลุงมาช่วย ท่านจะมาออกความคิดเห็นทำไม ?" ร่างของพรหมในชุดทรงเต็มยศพร้อมชฎา ปรากฏกายขึ้นในจิตของแอนดี้ กำลังยืนขวางประตูเรือนไม้ "มึงพูดยังงี้กับกู กูไม่ให้มึงเข้าเรือน ไอ้ลูกหมา ! แมวอะไรทำไมมันปากหมาอย่างนี้ ? ชั้นก็แค่ถามแกดี ๆ แกคิดยังไงก็ตอบมาซีวะ ทำไมต้องพูดจาแดกดันเหมือนกับชั้นเป็นลูกน้องแก ?" แอนดี้ตั้งจิต ยกมือไหว้ "ขออภัย ท่านลุง ! ผมไม่ได้เจตนาแดกดัน แต่ผมก็ถามดี ๆ ว่า ที่ท่านออกความคิดเห็นน่ะ ท่านมีเหตุผลอะไร ก็สามารถพูดมาได้ เผื่อผมจะได้เข้าใจไงครับ" "กูไม่เชื่อมึง ! มึงมันกะล่อน พอถูกจับได้ว่าปากหมา มึงก็เปลี่ยนมาเป็นอ้อน กูไม่ใช่สาว ๆ จะได้หลงคารมไอ้แมวหลงตัวเอง" หนุ่มชุดดำ หยุดยืนอยู่หน้าประตูเรือนไม้ "เอาน่า ! ท่านลุง ! ถือว่าผมแหย่นิดหน่อยเป็นอาหารเช้าละกัน ไอ้ที่ผมยังแต่งชุดดำนี่ เพราะวันนี้ ผมไม่อยากให้คนที่ผมคุยด้วย เค้าดูผมจากเสื้อผ้า ใส่เสื้อมีสีสัน มันก็จะดูหล่อเกินไป ก็แต่งดำ ๆ แบบนี้นี่แหละ จะได้ดูไม่ธรรมะธรรมโม" สหายท่านลุงยังมีสีหน้าไม่พอใจ แต่รู้ดีว่า วันนี้หลานแมวของท่าน มีนัดสำคัญ ครั้นจะชวนทะเลาะต่อไปก็จะเสียการเสียงาน พรหมในชุดเต็มยศยกมือขึ้นชี้หน้า "ปากดีนัก ! คอยดูไปเถอะ ! ชั้นมีเรื่องสำคัญจะบอกแก ไม่บอกซะเลยดีกว่า แกจะทำอะไรก็ไปทำ เห็นแกแล้วหงุดหงิดจริง ๆ" ร่างของพรหมหายวับไปในพริบตา แอนดี้ยิ้มกับตัวเอง แล้วก้าวเท้าผ่านเข้าประตูเรือนไม้ **************************************************************************************** ชั้นสองของเรือนไม้....พื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นห้องรับแขกของครอบครัวกิจบูรณา พื้นที่ส่วนที่เหลือถูกแบ่งเป็นห้องเล็ก ๆ อีก 4 ห้อง สำหรับเรียนกรรมฐาน แอนดี้นั่งพักอยู่ที่ห้องโถงของชั้นสอง จิตที่กำลังสบายทำให้เกิดสมาธิขึ้นได้อย่างง่ายดาย ภาพของหลวงพ่อสอนปรากฏขึ้น "จงมีเมตตากับเขา" เสียงหลวงพ่อสอนดังตามมา แอนดี้ตั้งจิตถาม "แค่นี้เองหรือครับ หลวงพ่อ ?" พระอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ พยักหน้า แอนดี้พยักหน้ารับรู้ แล้วใช้จิต ก้มลงกราบที่เท้าพระอาจารย์สามครั้ง "อาการป่วยเมื่อคืนทำให้เช้านี้สมองผมตื้อ คิดอะไรไม่ค่อยออก แต่จิตใจก็ยังสบาย ไม่ได้กังวลอะไรนัก ผมมาก่อนเวลานัดสองชั่วโมง ไม่รู้จะทำอะไรดี คงไม่มีอะไรให้เตรียมใช่มั้ยครับ ? ก็แค่มีใจเมตตากับเค้า" "แล้วตอนเธอบวชอยู่ที่วัดชั้นน่ะ เวลาว่าง ไม่มีอะไรทำ เธอทำอะไรล่ะ ?" เขาเลิกคิ้ว "ครับ หลวงพ่อ ! ก็ดีเหมือนกัน" **************************************************************************************** อาจารย์หญิงวัยเกือบอาวุโสผิวคล้ำเดินเข้ามาในห้องโถงเรือนไม้ ผมที่มีสีดอกเลาแซมประปรายของเธอ ถูกรวบมัดไว้ข้างหลัง วันนี้เธออยู่ในชุดเสื้อขาว กางเกงขายาวสีขาว หลังจากวางเป้สัมภาระสีดำไว้ที่ริมผนังห้องโถงแล้ว เธอก็เดินเท้าเปล่าอย่างกระฉับกระเฉง ตรงผ่านห้องโถงใหญ่ ไปทางห้องเก็บของท้ายเรือน เมื่อเปิดประตูห้องเก็บของ อาจารย์หญิงกลับไม่เจอสิ่งของที่ต้องการหา....ถังที่บรรจุอุปกรณ์ทำความสะอาดห้องน้ำ ด้วยความฉงน เธอจึงเดินตรงไปที่บริเวณห้องน้ำ มีเสียงดังมาจากข้างในห้องน้ำชาย ดูเหมือนใครบางคนกำลังทำความสะอาดห้องน้ำอยู่ เวลาแปดโมงครึ่ง.... ยังไม่ใช่เวลาที่คนทำความสะอาดจะมาถึง ! เธอถือวิสาสะเคาะประตูห้องน้ำชาย แล้วเปิดประตูเข้าไป ชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีดำถูกถกขึ้นมาถึงครึ่งแข้ง กำลังนั่งยอง ๆ อยู่บนพื้นห้องน้ำ เขาหันมา มีสีหน้าประหลาดใจ อาจารย์ทักขึ้น "อ้าว ! แล้วกำไลไม่มาเหรอจ๊ะ ? น้องมาแทนกำไลเหรอ ? มาแต่เช้าเชียว !" แอนดี้สั่นหัว "เปล่าครับ ! ผมไม่รู้จักกำไลครับ พอดีมีเวลาว่าง ผมเลยมาทำความสะอาดห้องน้ำฆ่าเวลาครับ" อาจารย์หญิงขมวดคิ้ว "อ้าว ! เธอเป็นใครล่ะ ทำไมถึงมาล้างห้องน้ำล่ะ ? ประเดี๋ยวเก้าโมง กำไลเค้าก็จะมาทำความสะอาดห้องน้ำชายตามปกติอยู่แล้ว เธอจะทำทำไม ?" แอนดี้ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ส่งยิ้มให้ "เหรอครับ ? ผมมันติดนิสัยเดิม เคยอยู่วัด ว่างเมื่อไหร่ ก็ไปทำความสะอาดห้องน้ำ มันก็ติดนิสัยน่ะครับ" อาจารย์ได้ฟังก็มีรอยยิ้ม พยักหน้า "อื้อ ดี ! โมทนาบุญด้วย ! เธอมาเรียนกรรมฐานเหรอ ? กว่าจะเริ่มก็สิบโมงโน่น เธอไปพักเถอะ ไม่ต้องทำต่อแล้ว ไปแย่งงานกำไลเค้า ส่งถังกับของทั้งหมดมาให้ชั้น ชั้นจะไปล้างห้องน้ำหญิง" แอนดี้เอียงคอ "อ้าว ! แล้วกำไลเค้าไม่ได้ล้างห้องน้ำหญิงเหรอครับ ? พี่เป็นใครถึงต้องไปช่วยล้างล่ะครับ ?" เธอหัวเราะ "ชั้นเหรอ ? ก็คงเหมือนเธอล่ะมั้ง วันเสาร์ชั้นจะมาเช้า เพื่อมาล้างห้องน้ำหญิงเอง มันเป็นรสนิยมส่วนตัว" เธอแบมือเป็นสัญญาณให้แอนดี้ส่งมอบวัสดุคืนให้ เขาเริ่มเอะใจ ชี้มือไปที่คู่สนทนา "อาจารย์ยาใจใช่มั้ยครับ ?" คู่สนทนาพยักหน้า เขาชี้ตัวเอง "ผมแอนดี้ครับ อาจารย์ !" พูดแล้วก็หัวเราะ ยกมือขึ้นไหว้ ดวงตาของอาจารย์หญิงเบิกโต "อ้าว ! คุณแอนดี้ !" เธอยกมือขึ้นไหว้รับ "คุณแอนดี้จะมาทำความสะอาดห้องน้ำทำไม ? เค้ามีคนรับผิดชอบอยู่แล้ว" "อาจารย์ก็เหมือนกันแหละครับ แปลกจัง ! เคยไฝ่ฝันอยากเป็นคนทำความสะอาดเหรอครับ ?" ครูยาใจหัวเราะชอบใจ เธอพยักหน้า "ไปเถอะค่ะ ! ปล่อยของไว้อย่างนั้นก่อน เดี๋ยววันนี้ครูจะบอกให้กำไลเขาทำทั้งสองห้อง เราไปหาที่นั่งคุยกันเถอะ" แอนดี้พยักหน้ารับ "ครับ ! วันนี้ฤกษ์ดีจริง ๆ ได้มารู้จักกันในห้องน้ำชาย รู้ถึงไหน อายไปถึงนั่น" อาจารย์หญิงหันหลังกลับไปเปิดประตูพร้อมเสียงหัวเราะร่วน สิงห์ชุดดำเดินออกมาจากห้องน้ำ เสื้อยืดสีดำมีร่องรอยของเหงื่อซึมออกมาอย่างเห็นได้ชัด "คุณแอนดี้รอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวครูจะไปเอาเสื้อขาวในห้องเก็บของมาให้ ดูสิ ! เหงื่อโชกเลย" แอนดี้พยักหน้ารับ "ครับ !" ครูยาใจเดินตรงไปยังห้องเก็บของ แอนดี้ยืนอมยิ้มอยู่หน้าบริเวณห้องน้ำ จิตนึกถึงหลวงพ่อสอนทันที นี่เป็นเจตนาอย่างชัดแจ้งที่หลวงพ่อสอนดลใจให้เขาเลือกฆ่าเวลาโดยการทำความสะอาดห้องน้ำ อาจารย์หญิงเดินถือเสื้อปฏิบัติธรรมสีขาวกลับมา เธอยื่นให้ "นี่จ้ะ ! หน้าตาอย่างกับดาราหนัง กลับมามีรสนิยมชอบล้างห้องน้ำซะได้ ไปเปลี่ยนเสื้อก่อน เดี๋ยวครูไปรอที่ห้องกรรมฐานใหญ่ก่อนนะ จะไปเปิดหน้าต่างรอไว้" แอนดี้รับเสื้อมาถือไว้ แล้วยกมือไหว้ "ขอบคุณครับอาจารย์ เดี๋ยวขอเวลาดาราไปเปลี่ยนเสื้อ แล้วจะตามไปครับ" อาจารย์หญิงหัวเราะทิ้งท้าย ก่อนหันตัวเดินผละไป **************************************************************************************** หน้าต่างบางส่วนของห้องกรรมฐานใหญ่ถูกเปิด เพื่อให้อากาศได้ระบายถ่ายเท นอกเหนือไปจากการสร้างนักเรียนที่มีคุณภาพนับจำนวนไม่ถ้วนแล้ว เรือนอภิญญาฆราวาสนี้ เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ครูยาใจรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วม ไม้ทุกชิ้นที่ประกอบขึ้นเป็นเรือนนี้ เปรียบเสมือนอวัยวะในร่างกายที่เธอรัก และ หวงแหน เพราะจิตศรัทธาที่มีในปฏิปทาของหลวงพ่อสอน...พระสงฆ์แห่งแดนล้านนา ทำให้เธอยินดีมอบกายถวายชีวิตเพื่ออุปถัมภ์ค้ำชูเรือนอภิญญาฆราวาส ครูยาใจเดินมาที่หน้ารูปหล่อพระประธานพระพุทธเจ้าองค์ปฐม คุกเข่า แล้วก้มลงกราบสามครั้ง ชายหนุ่มซึ่งมีหน้าตาคมเข้มเหมือนนายแบบที่เธอเพิ่งรู้จักเมื่อครู่นี้ จะมาพัฒนาสถานที่แห่งนี้ให้เป็นไปตามความต้องการของหลวงพ่อสอนได้มากน้อยเพียงใด ? หน้าตาดี พูดจาไพเราะ แต่ทำงานหยิบโหย่งฉาบฉวย ค้นหาความสำเร็จไม่เจอ.... นี่เป็นสิ่งที่เธอพบเห็นมาตลอดชั่วอายุของการเป็นครู หากชายคนนี้จะเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น... เป็นเช่นลูกศิษย์มากมายของเธอที่มีบุคลิกลักษณะประมาณนี้ เธอก็คงไม่แปลกใจนัก หากเขาจะทำได้แค่เพียงการสร้างภาพพจน์ที่ดี แต่ข้างในกลวงโบ๋ การตั้งความคาดหวังไว้สูง ก็จะจบด้วยการทุกข์ใจเองทีหลัง นี่คือหลักธรรมะง่าย ๆ ที่ใช้ได้ในทุกเวลา ทุกโอกาส ประตูห้องกรรมฐานถูกเปิดออก พนักงานรักษาความปลอดภัยหญิง เดินเข้ามาจนถึงบริเวณหน้าพระประธาน ครูยาใจลุกขึ้นยืน "มีอะไรเหรอจ๊ะ ?" "อาจารย์คะ มีคนจากต่างจังหวัดมาถามหาทิดเอกค่ะ" อาจารย์หญิงเอียงคอ ขมวดคิ้ว "ทิดเอก ! ใครคือทิดเอก ? เป็นคนที่มาฝึกกรรมฐานหรือเปล่า ? คงต้องรอใกล้ ๆ สิบโมงล่ะมั้ง กว่าคนที่จะมาฝึกกรรมฐานจะมากัน ไม่เป็นไร เดี๋ยวครูออกไปพบเค้าเอง" รปภ.สาวพยักหน้าเห็นด้วย "ค่ะ ! มากันเต็มคันรถเลย รออยู่หน้าประตูเรือนค่ะ" อาจารย์เลิกคิ้ว "หือ ! เต็มคันรถ ! รถอะไร ? รถทัวร์เหรอ ?" "เปล่าค่ะ ! รถกระบะค่ะ" รปภ.หญิง หันตัวกลับ แล้วเดินนำออกไป อาจารย์หญิงเดินผ่านห้องโถงมาถึงหน้าประตูเรือน อาคันตุกะหกชีวิตยืนสนทนากันอยู่ที่ระเบียงชานเรือน ชายวัยสามสิบกว่าปีผิวคล้ำเหลือบมาเห็นผู้ที่เดินออกมาต้อนรับ จึงยกมือขึ้นไหว้ "สวัสดีครับ ! ไม่ทราบว่าทิดเอกอยู่ที่นี่ใช่มั้ยครับ ?" ครูยาใจยกมือรับไหว้ "ทิดเอกไหนคะ ? เป็นคนที่มาฝึกกรรมฐานใช่หรือเปล่า ?" หญิงอาวุโสวัยประมาณเจ็ดสิบปี ผิวคล้ำ ผอมเกร็ง เดินเข้ามาพูดแทรกด้วยภาษาเหนือ "ไอ้พุด ! บอกเปิ้นไปเลยว่า คนตี้หล่อตี้สุดตี้นี้อยู่ตี้ได โตยมาฮื้อกำ ต้ะอี้แหละ" ไอ้พุดที่เป็นคนถามคนแรก หัวเราะ "นี่แม่ ! ใค๋เค๋ามาถามหาคนจะอี้กั๋น ? เปิ้นมีจื่อก็ฮ้องจื่อเปิ้น นี่บ่ใจ้หมู่บ้านเฮา จะได๊ฮ้องต๋ามใจ๋ชอบ" แม่หันหลังให้ลูก แล้วยกมือ "โค๊ะ ! ยุ่งยากขนาด ! เปิ้นฮ้องพระเอกของเปิ้นจ๊ะเก่าดีกว่า" ลูกชายเปลี่ยนมาพูดภาษากลาง "แม่เรียกพระเอกน่ะ คนเค้าจะนึกว่าแม่บ้าดารา" คำว่า 'พระเอก' ทำให้อาจารย์ยาใจฉุกคิดขึ้นมาได้ "พระเอก ! ใช่คุณแอนดี้หรือเปล่า ? ถ้าจะมีคนเป็นพระเอก สงสัยคงจะเป็นคุณแอนดี้ล่ะมั้ง ?" แขกทั้งหกคน ทำหน้าเหรอหรา คุณพ่อวัยเจ็ดสิบกว่ายังมีสติปัญญาที่ว่องไว อธิบายเพิ่ม "พระเอกนี่ ชื่อเอก ตอนบวชเป็นพระเค้าก็เรียกกันว่าพระเอก รูปร่างสูงประมาณนี้" เขายกมือขึ้นเหนือหัว "น่าจะประมาณร้อยแปดสิบ รูปร่างดี ชายชาตรีแท้ ๆ คิ้วเข้ม จมูกโด่ง หน้าตาจัดว่าหล่อมากเลยล่ะคุณ เพิ่งสึกมาได้ประมาณสองเดือน" ครูยาใจยกมือขึ้นโบก "รู้แล้วค่ะ คุณตา ! เป็นคุณแอนดี้แน่ ๆ เชิญทุกคนข้างในเรือนก่อนเลย ขอโทษทีนะคะคุณตาคุณยาย หนูเองก็เพิ่งรู้จักคุณแอนดี้วันนี้ ไม่เคยทราบว่าชื่อเอก" คณะอาตันตุกะเริ่มมีรอยยิ้ม คุณแม่ที่เปลี่ยนฐานะมาเป็นคุณยายตามคำที่ถูกเรียก จับแขนครูยาใจ "พิโธ่เอ๊ย ! หนูเพิ่งรู้จักท่านเรอะ ? พวกเราทั้งครอบครัวเนี่ย รู้จักท่านตั้งแต่บวชใหม่ ๆ เลย" คุณยายหันไปแนะนำ "นี่ลูกชายชั้น เป็นคนขับรถมาจากเชียงใหม่ คนนี้เมียเค้า แล้วก็สองคนโน้นเป็นน้องสาวชั้น พวกเราหกคนเนี่ย มางานศพญาติที่กรุงเทพ ฯ แต่คิดถึงพระเอก ก็เลยพากันมาเยี่ยมท่านที่นี่ รบกวนหนูด้วยนะ" หนูอายุห้าสิบกว่าปีพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม ผายมือเข้าไปในห้องโถง "เชิญทุกคนเข้ามาข้างในเลยค่ะ ถอดรองเท้าวางไว้ที่ชั้นเก็บรองเท้านี้ได้ค่ะ" **************************************************************************************** ประตูห้องกรรมฐานใหญ่ถูกเปิดออก แอนดี้อยู่ในชุดเสื้อกุยเฮงสีขาวที่เพิ่งเปลี่ยนใหม่ มีสีหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นครูยาใจ เดินนำคณะทัวร์จากต่างจังหวัดที่ไม่ได้นัดหมายเข้ามาในห้อง คุณยายออกเดินนำหน้าอย่างกระฉับกระเฉง "นี่ไง พระเอกของชั้น !" แล้วชิงยกมือไหว้อดีตพระเอกทันที ทิดเอกรีบยกมือไหว้สวนมา "อย่าไหว้ผม คุณยาย ! ผมสึกแล้ว" สมาชิกจากเชียงใหม่ทั้งหมด ยกมือไหว้ด้วยความเคยชิน คุณยายหันมาพูดกับสามีเสียงดังลั่น "นี่ ชั้นกอดท่านได้แล้วใช่มั้ยเนี่ย ? ท่านไม่ใช่พระแล้วนิ" ไม่ทันที่คุณตาจะเออออด้วย คุณยายก็เดินอ้าแขนเข้ามากอด แอนดี้กระชับแขนกอดตอบ แสดงถึงความสนิทสนมเป็นกันเอง ทันทีที่คุณยายผละจากตัวทิดเอก ก็รำพึงกับตัวเอง แต่เสียงก็จัดว่าไม่ได้เบา ได้ยินกันทั่วทั้งห้อง "ชื่นใจจริงจริ๊ง ! อยากกอดท่านมาตั้งนานแล้ว มีผมขึ้นแล้วหล่อกว่าตอนเป็นพระเยอะเลย" สมาชิกครอบครัวหัวเราะคิกคัก ครูยาใจอมยิ้มไปด้วย แอนดี้ยกนิ้วขึ้นชี้ "แน่ะ ! คุณยาย ! คิดจะกอดพระเลยเหรอ ? จะยัดเยียดความเป็นสมีให้ผมแล้วมั้ยล่ะ ! ดีนะ ผมสึกซะก่อน ไม่งั้น ผมก็อดที่จะกอดคุณยายไม่ได้เหมือนกัน" คำกระเซ้าของแอนดี้เรียกเสียงฮาได้จากคณะ ใบหน้าของคุณยายมีสีแดงฝาดราวกับสาวรุ่น อดีตพระเอก หันไปพูดกับครูยาใจ "พวกเค้าเป็นญาติโยมที่ใส่บาตรฟังธรรมที่วัดนาคโขงเป็นประจำครับ คุณตานี่เป็นอดีตกำนันเชียวนะครับ มีความรู้เรื่องการปฏิบัติดีมากครับ หลายเรื่องผมได้คุณตาคนนี้เป็นคนสอนผม" ครูยาใจพยักหน้ารับรู้ แล้วหันไปหาคุณตา "เป็นฆราวาส แต่สอนพระได้ ไม่ธรรมดาเลยนะคะคุณตา" คุณตาอมยิ้ม "สอนซะที่ไหนเล่า ตาแค่เล่าเรื่องประสบการณ์ พระเอกท่านมีของเก่ามาอยู่แล้ว เรียกว่า บารมีท่านถึงจริง ๆ นะ พรรษาน้อยแต่ บารมีไม่น้อยนะ" แอนดี้พูดขึ้น "เลิกเรียกผมว่าพระเอกได้แล้วครับ คนเค้าจะคิดว่าผมเป็นนักแสดง เรียกผมว่าแอนดี้ดีกว่าครับ เชิญทุกคนไปกราบพระประธานก่อน แล้วค่อยมานั่งคุยกัน" ครูยาใจทำหน้าที่เดินนำ เธอรู้สึกกระตือรือร้นทุกครั้งที่มีคนแปลกหน้ามาเยี่ยมเรือนแห่งนี้ **************************************************************************************** อ่านหน้า > 2, 3 |
|||||||