| |||||||
| |||||||
ห้องกรรมฐานชั้นบนเป็นห้องโล่ง ปราศจากเก้าอี้ และ โต๊ะ อาจารย์หญิงพูดกับพิม "ครูยังไม่ได้เล่ารายละเอียดให้คุณแอนดี้ฟังเลย เพิ่งรับแขกกันเสร็จ คุณพิมก็มาพอดี" พิมพยักหน้ารับรู้ "อ้อ... ค่ะ ! แพทตี้มีอาการผิดปกติทางสมอง คิดว่าสมองกระทบกระเทือนจากตอนหกล้มวันนั้น อาการทรง ๆ อยู่อย่างนี้มาหลายวันแล้ว" คุณแม่โอบบ่าลูกสาว "แกซึม ๆ แล้วก็บ่นว่าเบื่อ ไม่อยากไปไหน ไม่อยากกินข้าว บางครั้งก็เหมือนหลอน ๆ พูดอะไรก็จำคำพูดตัวเองไม่ได้..." แอนดี้พยักหน้ารับฟัง ไม่มีใครคาดคิด จู่ ๆ สาวน้อยก็ทรุดตัวลงนั่งคุกเข่า พิมยกมือขึ้นทาบอก คิดว่าลูกสาวกำลังจะเป็นลม แพทตี้ยกมือขึ้นพนม แล้วก้มลงกราบไปที่ปลายเท้าของแอนดี้ ในเสี้ยววินาทีที่เขานึกจะชักเท้าหนี แต่ขากลับแข็งนิ่ง ไม่กระดิก เสียงพระนางจันทิมาดังก้องในจิต 'ปล่อยให้เขากราบท่าน !' พิมร้องขึ้น "แพทตี้ ทำอะไรน่ะ ?" เสียงของลูกสาว ดังลอดมามาจากใบหน้าที่ยังจรดอยู่ที่พื้น "แพทตี้กราบขอโทษ ! ขอให้รับแพทตี้ไว้เป็นศิษย์ด้วยค่ะ !" คุณแม่สั่นหัว "ตายละ ! แพทตี้เพ้ออีกแล้ว" เธอกำลังก้มตัวลงเพื่อจะประคองลูกสาว แอนดี้ยกมือห้าม "คุณแม่ครับ ! ไม่ต้อง !" เขาหันไปทางอาจารย์ "อาจารย์ยาใจครับ พาคุณแม่แพทตี้ไปนั่งคอยข้างนอกก่อน ผมขออนุญาตคุยกับแพทตี้สองคน" แววตาของสิงห์บอกอารมณ์ที่จริงจัง ครูยาใจพยักหน้ารับทันที ครูหญิงประคองแขนพิม "คุณพิม ! ปล่อยให้คุณแอนดี้จัดการเถอะ ! คุณแอนดี้เป็นศิษย์ของหลวงพ่อสอน เค้าจัดการได้แน่ ๆ เราสองคนไปรอข้างนอกนะคะ" พิมพยักหน้ารับ แล้วเดินตามครูหญิงออกไปนอกห้อง ประตูถูกปิด แอนดี้ทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิ เพื่อสนทนากับแพทตี้ ในขณะที่จิตก็เปิดการสื่อสารกับพระนางจันทิมา 'ท่านจงรับเขาไว้เป็นศิษย์ !' "ได้ ! แพทตี้ ผมรับแพทตี้ไว้เป็นศิษย์ เงยหน้าขึ้นมาได้แล้ว เรามานั่งขัดสมาธิคุยกัน" สาวรุ่นเงยหน้าขึ้น แล้วเปลี่ยนเป็นนั่งขัดสมาธิ หน้าตาของเธอยังดูสะลึมสะลือ คล้ายกับคนอดนอน แอนดี้เริ่มสนทนา "ทำไมแพทตี้อยากให้ผมรับแพทตี้เป็นศิษย์ล่ะ ? เราเพิ่งได้เจอกันครั้งเดียวเอง" สายตาที่ดูเชื่องช้า ค่อย ๆ กลอกขึ้นไปด้านบน เธอกำลังนึกประมวลเหตุการณ์ "มีผู้หญิง แต่งชุดโบราณ ดุมาก...." แพทตี้พูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา แล้วก็หยุดไว้แค่นั้น แอนดี้เอียงคอ รอฟังว่าเธอกำลังจะพูดอะไรต่อ หรือ เธอนึกไม่ออก ? หรือ เธอไม่กล้าพูด ? "ผู้หญิงแต่งชุดโบราณ ... แล้วยังไงต่อล่ะครับ ?" เธอค่อย ๆ กระพริบตาช้า ๆ เหมือนคนกำลังจะหลับ "เค้ามาบอกให้แพทตี้มากราบขอโทษ แล้วถ้าอยากจะหาย ต้องให้แพทตี้ยอมเป็นศิษย์" แอนดี้พยักหน้ารับรู้ "ผู้หญิงท่านนั้น ไปหาแพทตี้ยังไงครับ ? ในฝัน ?" เธอค่อย ๆ พยักหน้า "แล้ว แพทตี้เล่าให้คุณแม่ฟังหรือเปล่า ?" เธอสั่นหัว "เค้าดุมาก น่ากลัว ! แพทตี้กลัว !" เสียงงัวเงียเหมือนสภาพใบหน้า แอนดี้กลับหัวเราะหึ ๆ 'ท่านหัวเราะสิ่งใด ? เรามิเอาชีวิตเด็กคนนี้ก็นับว่าเป็นบุญแล้ว ถ้าเรากำราบเด็กคนนี้มิได้ เราจักช่วยท่านทำการใหญ่อื่น ๆได้อีกรึ ?' "แพทตี้เลิกกลัวได้แล้ว ! ผมรับแพทตี้เป็นศิษย์แล้ว" 'ยังไม่หมดแค่นั้น ! ขอให้ท่านเจรจาเรื่องต่อไปนี้ก่อน' "มีอีกเรื่องนึง ขอให้แพทตี้รับปากผมว่าจะทำ" เธอพยักหน้าทันที แอนดี้รับฟังคำอธิบายจากพระนาง ฯ แล้วเจรจาทันที "มีผู้หญิงคนหนึ่ง เขาถูกของที่แพทตี้ส่งเข้าไป ผมขอให้ แพทตี้ ช่วยผู้หญิงคนนั้น" แพทตี้เบิกตาโต แต่ไม่ปริปากพูดคำใด แอนดี้ถาม "แพทตี้รู้มั้ยว่า หมายถึงใคร ?" ที่เขาถาม ก็เพราะ ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร สาวรุ่นค่อย ๆ พยักหน้า "คิดว่ารู้ค่ะ ! แต่...." "แต่อะไรครับ ?" "หนูไม่รู้ว่า หนูจะมีแรงทำได้หรือเปล่า เพราะตอนนี้ หนูไม่มีพลังเลย" แอนดี้พยักหน้า เขาเจรจาต่อ ตามเสียงที่ได้ยินจากพระนาง "ทำได้ ! หลังจากวันนี้ไป อาการของแพทตี้ จะเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ อีกสามสี่วัน แพทตี้จะเป็นปกติ แล้วแพทตี้ ก็ติดต่อไปที่ผู้หญิงคนนั้น บอกว่าแพทตี้จะไปช่วยเค้า ในวันที่แพทตี้ไปช่วยเค้า ขอให้ตั้งจิตบอกพระนาง พระนางจะไปส่งพลังให้" สาวรุ่นเอียงคอ "พระนาง ?" "พระนางจันทิมา ท่านมีพระนามว่า จันทิมา ท่าน คือ ผู้หญิงที่แพทตี้เห็นในฝัน" สีหน้าของเธอ เริ่มเปลี่ยนเป็นวิตกกังวล ความน่าสะพรึงกลัวของภาพในความฝัน ยังประทับอยู่ในใจ "ทำไมเหรอ แพทตี้ ?" น้ำตาเริ่มไหลออกมาล้นขอบตา "หนูกลัวค่ะ ! หนูกลัวผู้หญิงคนนั้นมาก" "ไม่ต้องกลัว ! ท่านบอกว่า แพทตี้จะไม่ได้เห็นท่านอีกแล้ว ต่อไป ก็ขอให้เชื่อผมนะ ถ้าแพทตี้เชื่อผม ท่านก็จะไม่ไปให้แพทตี้เห็นอีก ขอให้แพทตี้ไปช่วยผู้หญิงคนนั้น แล้วตั้งจิต บอกพระนางจันทิมาว่า ขอให้พระนาง ส่งพลังไปช่วยแพทตี้ แค่นี้ ทำได้มั้ย ?" เธอผงกหัวช้า ๆ แอนดี้ส่งยิ้มให้ เป็นอันว่าจบการเจรจา เขาส่งจิตสื่อสารกับพระนาง 'ผมอยากให้พระนาง ช่วยทำให้เธอดีขึ้นกว่านี้อีกนิดนึง ตอนนี้เลยได้มั้ยครับ ? ผมอยากให้แม่ของเธอสบายใจ' 'ท่านอยากเห็นเด็กคนนี้ ดีขึ้นอย่างไร ?' 'อย่างน้อยก็ อยากให้เธอยิ้มได้' 'ท่านก็บอกเธอสิว่า ให้เธอยิ้ม ระหว่างที่เธอเจรจากับท่าน เราได้คลายอาการของเธอไปมากแล้ว' แอนดี้พูดขึ้น "ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง ? ยิ้มได้แล้วหรือยัง ?" แพทตี้ชำเลืองมองแอนดี้ เธอไม่ตอบคำถาม แต่ความรู้สึกตื้อ ๆ ในสมองคลายลงไปอย่างเห็นได้ชัด "ในเมื่อแพทตี้เป็นศิษย์ผมแล้ว ก็ต้องเชื่อผม อย่างแรกที่ผมสั่งคือ ให้แพทตี้ยิ้ม" รอยยิ้มเริ่มผุดมาจากใบหน้าของแพทตี้ แอนดี้พยักหน้า "ดีมาก ! เรื่องของเราที่คุยกันวันนี้ จะเป็นความลับระหว่างเราสองคน ผมจะไม่เล่าให้คุณแม่แพทตี้ฟัง เพียงแต่ จะบอกว่า ผมรับแพทตี้เป็นศิษย์ ตกลงนะ !" เธอพยักหน้ารับรู้ "สิ่งที่ผมตัองการคือ พอเปิดประตูห้องออกไป ขอให้แพทตี้ ยิ้ม ส่งยิ้มให้คุณแม่ แล้วให้เดินอย่างกระฉับกระเฉง" เธอพยักหน้าติดกันหลาย ๆ ครั้ง "โอเค ! งั้นเดี๋ยวเราออกไปกัน !" "เดี๋ยวค่ะ ! หนูจะเรียกอาจารย์ว่าอะไรคะ ? เรียกว่าอาจารย์ได้มั้ยคะ ?" แอนดี้นึกสักอึดใจ "เรียกว่าครูดีกว่า เรียกครูแอนดี้แล้วกัน" "ค่ะ ! ครูแอนดี้" เขาพยักหน้ารับ "วันนี้ คงได้มีลูกศิษย์หญิงสองคน" แพทตี้เอียงคอ ไม่เข้าใจว่าทำไมกลายเป็นสองคน "ไม่มีอะไรหรอก ! ครูแค่พูดกับตัวเองน่ะ ไป ! เราออกไปข้างนอกกัน !" ******************************************************************************** เมื่อประตูห้องถูกเปิดออก... ครูยาใจ และ พิม ที่นั่งรออยู่บนเก้าอี้โซฟาในห้องโถง มองตรงมาที่ประตู แพทตี้เดินออกมาด้วยรอยยิ้ม เธอมองไปที่คุณแม่ "แม่ ! แพทตี้ดีขึ้นแล้ว !" เธอเดินอย่างเร็วไปที่ชุดโซฟา พิมลุกขึ้นยืน แอนดี้เดินตามออกมา ครูยาใจรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ภาพนักเรียนสาวที่เดินโซซัดโซเซเมื่อมาถึง บัดนี้กลายเป็นคนที่แจ่มใส คล่องแคล่ว ผิดกับสภาพตอนที่มาถึงอย่างเห็นได้ชัด ครูหญิงเลิกคิ้วถามแอนดี้ "เสร็จแล้วเหรอ ? ทำไมเร็วจังเลย ?" แอนดี้พยักหน้า "ครับ ! ก็.... แค่ผมรับแพทตี้ไว้เป็นศิษย์ เธอก็หายแล้วครับ" "หา ! แค่นี้เองเหรอ ? แล้วทำไม...." อาจารย์หญิงชะงัก เธอคิดว่า คงมีรายละเอียดอื่น ๆ ที่ยังไม่จำเป็นต้องอธิบายกันให้รู้ ณ ตอนนี้ ".... อื้อ... แต่ ก็ดีแล้ว เห็นแล้วโล่งอก" พิมลูบหัวลูกสาว "เป็นไง แพทตี้ ? ดีขึ้นแล้วจริง ๆ เหรอ ?" ลูกสาวส่งยิ้มให้แม่ แล้วพยักหน้า "ค่ะ ! ครูแอนดี้รับแพทตี้ไว้เป็นศิษย์ แพทตี้หายแล้วค่ะ !" คำพูดเพียงแค่นี้ ไม่ได้ทำให้คำถามของคนเป็นแม่หายไปได้ทั้งหมด แต่ การตั้งคำถามเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญเท่ากับ การเห็นลูกสาวกลับมามีสีหน้าท่าทาง เหมือนลูกสาวคนเดิม พิมถอนหายใจ แล้วยกมือกุมหน้าอกตัวเอง ความกลัดกลุ้มในใจที่มีมาเกือบครึ่งเดือน ถูกปลดทิ้งได้ในวันนี้ คุณแม่ยังสาว เดินตรงมาที่แอนดี้ เธอยกมือไหว้ "ขอบคุณ คุณแอนดี้มากค่ะ !" เขายกมือรับไหว้ พิมหันไปมองหน้าครูยาใจ "ถ้าพิมมีเรื่องปรึกษาเรื่องอื่น ๆ อีก พิมจะรบกวนคุณแอนดี้อีกได้มั้ยคะ ?" อาจารย์หญิงหันมาส่งสายตาให้แอนดี้ "ถ้าคุณแอนดี้สงเคราะห์ได้ ครูก็ขอให้คุณแอนดี้ช่วยนะ" แอนดี้พยักหน้า "ครับ อาจารย์ ! ถ้าคุณพิมอยากจะปรึกษาอะไร ก็เชิญได้ครับ" พิมพยักหน้า "ดีจัง ! พิมคงจะติดต่อมาผ่านอาจารย์ยาใจนี่แหละ คงเป็นครั้งหน้านะคะ ******************************************************************************** คุณน้อยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นรับสาย "สวัสดีครับ อาจารย์ !" "คุณน้อย ! หลวงพ่อสอนส่งใครมาน่ะ ?" "หือ ! ทำไมเหรอครับ ?" "อย่างกับเทวดาน่ะ ! บุคลิกดี สุภาพ ไม่ถือตัว มีภูมิความรู้ด้านธรรมะดีมาก แล้วที่ครูเข้าใจนะ ครูว่าเค้ามีอภิญญาไม่น้อยเลยนะ สามารถทำให้นักเรียนวันนี้หายได้ภายในไม่ถึงครึ่งชั่วโมง" เขาหัวเราะชอบใจ "เหรอครับ ? อาจารย์โอเคใช่มั้ยครับ ?" "ยิ่งกว่าโอเคอีก ! ตั้งแต่เรือนไม้นี้เสร็จมาสองปีกว่าแล้ว ยังไม่เคยมีใครชื่นชมครูขนาดเดินเข้ามากอดเลย วันนี้เป็นวันแรก รู้สึกจิตใจมันปลื้มปีติมาก" "หนุ่มที่ไหนมากอดอาจารย์เหรอครับ ?" "ไว้ค่อยเล่าให้คุณน้อยฟังแล้วกัน ไม่รบกวนเวลาคุณน้อย แต่อยากจะขอบคุณคุณน้อย มันเป็นความฝันของครูเสมอ ที่อยากให้เรือนอภิญญาฆราวาส มีกิจกรรมอะไรทำเพื่อส่งเสริมพุทธศาสนามากกว่านี้ แต่วันนี้ ครูเริ่มเห็นว่า มันมีวี่แววที่สดใส บุคลิกแบบคุณแอนดี้นี่ ครูมั่นใจว่าเราจะต้องมีอะไรสนุก ๆ ทำกันต่อไปแน่ แค่นี้นะคุณน้อย ครูไม่รบกวนละ" ******************************************************************************** การประชุมที่มีวิลเลียม เฉิน เป็นประธานในที่ประชุม ไม่ง่ายเลย ผู้บริหารของไตรสรณ์ทุกคนรู้ดีอยู่ การไล่ตรรกะของเขา ทำให้ผู้บริหารหลายคนประหม่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า ผลลัพธ์ที่ได้จากการประชุมนั้น เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาองค์กร วิลเลียม มีมุมมองที่แปลก แตกต่างออกไปจากผู้บริหารไทยคนอื่น ๆ มัณฑนาเข้าร่วมฟังการประชุม ในฐานะ ออบเซิร์ฟเวอร์ (ผู้สังเกตุการณ์) นั่งอยู่หลังห้อง เธอรู้สึกประทับใจในวิธีการประชุมที่ตรงไปตรงมา จี้จุดอย่างไม่เกรงใจ แต่สุภาพ และ มีเหตุผล ของวิลเลียม เสร็จสิ้นการประชุมแล้ว ตะวันฉายเดินอมยิ้มมาที่หลังห้อง "มันส์ดีครับ ! มิสเตอร์เฉินแกเหมือนนักแสดงเลย แม่นเป๊ะทุกบท" ประธานบริหารพยักหน้า "ใช่ ! เรื่องรายได้คอนโซลิเดทที่ไม่เมคเซ้นส์นั้น ขอให้ทำตามคุณเฉินแนะนำ ดีเหมือนกัน ได้มีคนมาสังคายนาระบบรีพอร์ตเก่า ๆ ไม่งั้นเราไม่เห็นภาพที่แท้จริงของธุรกิจซักที" วิลเลียม เฉิน อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตขาว เนคไทน้ำเงิน เดินมาที่หลังห้อง "หนีห่าว ! Hi.. how are you ?" เขาทักทายประธานหญิงด้วยภาษาจีนกลาง และ อังกฤษ "Hi...William ! Very fruitful meeting ! I'm impressed." วิลเลียมผงกหัวให้ แล้วสนทนาต่อด้วยภาษาอังกฤษ "ผมได้ยินมาว่า เย็นนี้ คุณจะเริ่มเรียนภาษาแมนดาริน เป็นวันแรก" "อ้อ ใช่ค่ะ ! ถ้าเจอกันพรุ่งนี้ อย่าเพิ่งพูดภาษาจีนกลางกับฉันนะ คงต้องให้ฉันเรียนสักพักหนึ่งก่อน" เธอพูดแล้วก็หัวเราะ "ไม่มีปัญหา ! หวังว่าคุณคงจะสนุกกับการเรียนนะครับ ถ้ามีเรื่องใด ไม่เข้าใจ ถามผมได้ครับ ยินดีตอบเสมอ ไม่คิดค่าใช้จ่าย" เขาหยอกกลับด้วยความเป็นกันเอง ******************************************************************************** ประธานหญิงเดินออกจากลิฟท์ ตรงมาที่บริเวณออฟฟิศประธานบริหาร "คุณมัณคะ ! เหล่าซือรออยู่ในห้องแล้วค่ะ !" แป๋วรายงานเจ้านาย แล้วอมยิ้ม มัณฑนาพยักหน้ารับรู้ "โอเค ! แล้วจัดน้ำ จัดกาแฟเข้าไปหรือยัง ? เอ๊ะ..! วันนี้เรามีแสน็คอะไรบ้าง ?" "แซนด์วิชไก่มั้ยคะ ? หรือ คุ๊กกี้ ?" ประธานหญิงพยักหน้า "แซนด์วิชแล้วกัน ! เออ... ! เรามีชาจีนใช่มั้ย ? ชงชาจีนไปให้เลือกก็ดีนะ เป็นคนจีน ก็คงชอบกินชาจีน" แป๋วหันหน้าไปมองเพื่อนเลขาข้าง ๆ แล้วหัวเราะคิกคัก "แต่สำหรับเหล่าซือคนนี้ อาจจะไม่แน่นะคะ" "ทำไมเหรอ ? หน้าตาไม่เหมือนคนจีนหรือไง ?" แป๋วอมยิ้ม "ก็... เหมือนค่ะ ! แต่ ไม่เหมือนครู" "แล้วเหมือนอะไร ?" เลขาเอก หันไปมองหน้าเพื่อนอีกครั้ง แล้วอมยิ้ม "มีอะไรกัน ? หน้าตาเค้าตลกมากนักหรือไง ?" แป๋วชี้ไปที่โต๊ะข้าง ๆ "ต้องถามพี่ณีค่ะ เหล่าซือเค้าทำพี่ณีหน้าแดงเลย" มัณฑนามองหน้าเลขาที่ชื่อวาทิณี แล้วขมวดคิ้ว "พวกเธอเป็นอะไรกัน ? จุ๊กจิ๊ก จุ๊กจิ๊ก กันไปมาเหมือนกับเด็กนักเรียน เดี๋ยวแป๋วให้เมดเตรียมแซนด์วิช กาแฟ ชาจีน เข้าไปให้เลือกเลยแล้วกัน สายของชั้นทั้งหมด ไม่รับจนถึงห้าโมงเย็น" "ค่ะ !" มัณฑนาผละจากบริเวณกองเลขา แล้วเปิดประตูเข้าห้อง ที่โซฟารับแขก ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ เสื้อเชิ้ตขาว เนคไทเทา รองเท้าหนัง ผมสั้นรองทรง ผิวขาว กำลังนั่งอยู่ เขาลุกขึ้นยืนเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู และ เสียงฝีเท้า "สวัสดีครับ ! คุณมัณฑนา ?" "ค่ะ ! สวัสดีค่ะ เหล่าซือ" ประธานหญิงสิ้นสงสัยทันทีเมื่อได้เห็นครูสอนภาษาด้วยตาตนเอง ด้วยบุคลิก และ หน้าตาเช่นนี้ เธอหมดความแปลกใจที่เลขาหญิงสองคนนอกห้องเธอ แสดงอากัปกริยาแปลก ๆ เมื่อครู่ เสียงหัวเราะหึ ๆ ดังมาจากลำคอของประธานหญิง "มีอะไรเหรอครับ ?" "เหล่าซือทำให้คนข้างนอกนั่น หัวใจหล่นกันเป็นแถว ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ตัวมัณเองไม่มีพื้นฐานทางด้านภาษาจีนมาเลยนะคะคงไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ ?" "ไม่เป็นไรครับ !" "จะให้มัณเรียกว่าอะไรดีคะ ? เรียกเหล่าซือถูกหรือเปล่า ? ต้องเรียกแซ่ด้วยหรือเปล่าคะ ?" "ไม่ต้องก็ได้ครับ ! เรียกชื่อก็พอ เรียกผม เหล่าซือแอนดี้แล้วกันครับ" __________________________________________________________________________________________ โดย วีรยาติ กลับขึ้นด้านบน สมัครสมาชิก เว๊บบอร์ดที่นี่ (หากไม่สมัครสมาชิก จะโหวต หรือ แสดงความคิดเห็นไม่ได้) และ อ่าน หรือ แสดงความคิดเห็นที่นี่ |
|||||||
|
|||||||