ตอน 28 หน้า 2

ศิษย์นรก

สั่งซื้อ หนังสือนิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก ราคา 380 บาท

ยามสายวันอาทิตย์ที่การจราจรในเมืองหลวงเบาบางกว่าวันปกติ....

.... สิงห์ต้าลู่อยู่ในชุดเสื้อยืดคอปกสีดำ กางเกงแสล็คลำลอง นั่งอยู่ที่เบาะหน้า

สายวันนี้ อาเจิ้น....อดีตลูกน้องชาวจีนหน้าเสี้ยม อาสามารับเขาที่บ้าน เพื่อไปส่งที่เรือนอภิญญาฆราวาส

เมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากบ้านได้ไม่ถึงนาที พี่ใหญ่ก็เริ่มสนทนา

"อาเจิ้น ! แกเล่าเรื่องอาฟ่งกับไมเคิลที่ชลบุรีมาให้ฉันฟัง รู้เท่าไหร่ เล่ามาให้หมด อาฟ่งเล่าให้ฉันฟังบ้างแล้ว แต่เธอเล่าเพราะฉันจับได้จากหลักฐาน ที่เหลือฟังจากแกจะดีกว่า หรือว่ายังไง ?"

โชเฟอร์เลิกคิ้วขึ้นไปเหนือกรอบแว่นกันแดด คำพูดเพียงแค่นี้ของพี่ใหญ่ เปรียบเสมือนคำสั่งที่เขาไม่กล้าจะมีคำถามให้ทวนคำพูดอีกครั้ง

"พี่ใหญ่ ถามมาได้เลย อยากรู้ตั้งแต่ตอนไหน ฉันจะเล่าเท่าที่ฉันรู้"

ต้าเกอหัวเราะหึ ๆ

"แกนี่ เดี๋ยวนี้แกกลายเป็นมือขวาของอาฟ่งแล้วหรือ ? มิน่า ! ฉันเคยได้ยินแกพูดว่า อาฟ่งฉลาดเท่าฉันแล้ว"

"ฉันคิดว่าอาฟ่งฉลาดนะ อย่างน้อยก็ฉลาดกว่าฉัน ฉันเป็นได้แค่ม้าตาปิด กระตุกสายบอกฉันให้ไป หยุด เลี้ยวซ้ายขวา ฉันทำได้ แต่ให้ฉันคิดเองแบบอาฟ่ง ฉันคิดไม่ได้ บางเรื่องที่อาฟ่งคิด ฉันก็ยังไม่เข้าใจ อย่างเช่น เรื่องที่สุรินทร์"

"เรื่องที่สุรินทร์ ? เกิดอะไรขึ้นที่สุรินทร์ ?"

"ยังไม่เกิด ! เพียงแต่อาฟ่งคุยกับไมเคิล เรื่องจะไปสุรินทร์ แต่.... ถ้าฉันเล่าเท่าที่ฉันรู้ แล้วที่เหลือ พี่ใหญ่ถามจากไมเคิลเองจะดีกว่าใช่ไหม ?"

แอนดี้พยักหน้า

"ได้ ! แกเล่าให้ฉันฟังก่อน"

เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือแอนดี้ดังขึ้น เขากดรับสาย

"สวัสดีครับ อาจารย์"

"คุณแอนดี้ ครูมีเรื่องรบกวนหน่อย เมื่อกี๊จู่ ๆ คอมเพรสเซอร์แอร์ของห้องกรรมฐานใหญ่ ระเบิด เสียงดังมากเลย รปภ.เดินไปดูแล้วก็บอกว่าคอมเพรสเซอร์ด้านนอกมันระเบิด มีกลิ่นไหม้ แอร์ห้องกรรมฐานเลยใช้ไม่ได้

วันนี้วันอาทิตย์ ติดต่อคุณวรุตม์ไม่ได้ แกไม่ได้เปิดมือถือ รบกวนคุณแอนดี้ ถามคุณน้อย ให้ช่วยส่งช่างของสวนสนุกมาดูให้หน่อยได้มั้ย ?"

แอนดี้หัวเราะร่วน

"ฮ่า ๆๆๆ ! พลังสมาธิของอาจารย์คงร้อนแรงมาก สอนกรรมฐานจนแอร์พัง ฮ่า ๆๆๆ !"

"แหม ถ้าครูมีพลังขนาดนั้นได้ก็ดี คงใช้พลังซ่อมแอร์เองแล้วแหละ อายุแอร์แค่สองปี ไม่ได้ใช้ทุกวันด้วย ทำไมมันเปราะอย่างนี้น๊อ ? รบกวนคุณแอนดี้หน่อยนะ !"

"ได้ครับ ! เดี๋ยวผมคุยกับคุณน้อย ระหว่างนี้จะสอนต่อไปได้มั้ยครับ ?"

"ช่วงเช้า ไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ เดี๋ยวเปิดหน้าต่างสอนได้ แต่ช่วงบ่าย ถ้าแดดมาเต็ม คงใช้ห้องนี้ไม่ไหว"

"ครับ ! ผมรีบติดต่อให้"

*******************************************************************************************

ข้อมูลที่ได้รับฟังจากอาเจิ้น ทำให้แอนดี้ประหลาดใจในความคิดที่ซับซ้อนของน้องสาว

ใครอีกคนที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง ทำให้จิ๊กซอว์เรื่องเหล่านี้เป็นชิ้นเป็นอัน มองเห็นภาพรวมได้มากขึ้น ใครคนนั้น น่าจะเป็นน้ายงค์

ซีฟ่งเล่าเรื่องราวให้เขาฟังบ้าง แต่ไม่ละเอียดมากพอที่เขาจะเข้าใจความคิดของเธอ ถ้าเขาได้รับฟังข้อมูลจากนับสืบคนสนิท เขาคงต่อภาพได้ใกล้เคียงความจริงมากขึ้น

รถแล่นเข้าเทียบจอดหน้าเรือนไม้ แอนดี้ลงจากรถ แล้วประพฤติตามกิจวัตรปกติ คือ หันหน้าไปทางศาลพระภูมิ แล้วยกมือไหว้ ระลึกถึงพระคุณท่านปู่ใหญ่ เทวดาที่ดูแลพื้นที่แห่งนี้

เสียงท่านลุงเริ่มทักทาย

"แกควรจะมีคนมาช่วยแกทำงานได้แล้ว วันนี้มือขวาของแก จะมาหาแก"

แอนดี้หัวเราะในใจ

"ใช่ครับ ! มือขวาเพิ่งขับรถมาส่งผม ท่านลุงดูได้แม่นยำจริง ๆ !"

"ม่ายช่าย ! ชั้นหมายถึง คนที่จะมาช่วยให้แกทำงานเผยแพร่ธรรมะ ขยายบริวาร แกต้องการคนช่วย"

เขาก้าวขึ้นเรือน เดินเข้าไปในห้องโถง

"ผมมีคนช่วยแล้ว รุ่งไง ! เรือนอภิญญาฆราวาสนี้ ต้องการแค่รุ่งโรจน์เท่านั้น"

"ชั้นหมายถึง การขยายบริวาร แกทำคนเดียวไม่ไหว แกจะต้องมีคนช่วย"

"จะขยายไปทำไมบริวาร ? มีกำลังอยู่แค่นี้ ได้แค่ไหน ก็แค่นั้น"

ภาพของท่านลุงเริ่มปรากฏขึ้นในจิต ทรงชุดพรหมเต็มยศ มีประกายแสงจากเครื่องประดับระยิบระยับ

"ป่วยการมาเถียงกัน ! ไอ้การงานที่ต้องทำอีกเยอะแยะ แกไหนจะต้องป่วย แกอยากจะป่วยไปนาน ๆ งานก็ทำไม่สำเร็จ เป็นคนได้แค่กลางวัน กลางคืนเป็นแมวป่วยตลอดไป ก็ตามใจ แต่ถ้าแกมีคนมาช่วย ทุกอย่างจะเสร็จได้เร็วขึ้น เหมือนกับพระพุทธเจ้า ท่านยังมีอัครสาวกเบื้องขวา เบื้องซ้าย.... "

"อ้าว ! แล้วรุ่งเป็นมือขวาผมก็ได้ไม่ใช่เหรอ ? ทำไมต้องหาคนใหม่ ในเมื่อผมมีน้องชายคนนี้อยู่แล้ว ?"

"แล้วน้องชายแกคนนี้ ตอนนี้เผยแพร่ธรรมะได้แล้วเหรอ ? จะเอาตีนเหยียบมาบนเรือน เค้ายังไม่กล้าเลย แกอย่าเพิ่งเถียงชั้นเลย ผู้หญิงที่กำลังเดินมาหาแกข้างหน้านั่น เขาพาลูกน้องมือขวามาส่งให้แก ลองพิจารณาดู"

ทันทีที่จบประโยคของท่านลุง หญิงวัยห้าสิบกว่าปี หน้าตาเป็นที่คุ้นเคยกับแอนดี้ เดินตรงเข้ามาหา พร้อมผู้ชายอีกสองคน

"คุณแอนดี้ ! พี่พาลูกชายมาหา"

ชายหนุ่มสองคนยกมือไหว้ คนหนึ่งรูปร่างผอม ไว้ผมยาวกระเซอะกระเซิง หน้าตาหมองคล้ำ อายุประมาณยี่สิบปี อีกคนรูปร่างสมส่วนทะมัดทะแมง หน้าตาสะอาด ผิวพรรณสดใส อายุประมาณสามสิบปี

แอนดี้ยกมือรับไหว้

"ว่าไง พี่อุ่น ! ลูกชายเหรอครับ ?"

นางอุ่นจับแขนลูกชายคนเล็ก แล้วลากมายืนใกล้ ๆ แอนดี้

"คนนี้ค่ะ ! อุ่นอยากฝากให้คุณแอนดี้อบรม คนนี้ชื่อสิน รับมันไว้เป็นศิษย์ อบรมดุด่ามันได้ เผื่อมันจะได้เป็นผู้เป็นคนซะบ้าง"

สินมีสีหน้าสะลึมสะลือ ตาปรือ มองหน้าแอนดี้แล้วก็ได้แต่ยิ้มแหย ๆ

แอนดี้เลิกคิ้ว

"อ้าว ! แล้วตอนนี้เค้าไม่เป็นคน แล้วเป็นอะไรล่ะ ?"

"เป็นไอ้ขี้เมาค่ะ ! เรียนมันก็เรียนไม่จบ เข้ามหาลัย'ได้ปีเดียว แล้วมันก็ไม่เรียน กินแต่เหล้า มั่วสุม ว่างก็ขับมอเตอร์ไซค์ไปหาเพื่อน อะไรก็ไม่เอาซักอย่าง อุ่นเองก็หมดทางเลือก จะจับมันบวช แต่ก็กลัวว่า ถ้ามันไม่เต็มใจบวช บวชแล้วก็จะเสียผ้าเหลืองเปล่า ๆ"

"ก็เลยเอามาให้ผมซะยังงั้น ?" เขาหัวเราะ

จิตเขาสื่อกับท่านลุง นัยน์ตายังพินิจพิจารณาสภาพของเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหน้า

'ท่านลุงที่รัก ! ผมนึกสภาพไม่ออกจริง ๆ ว่า เด็กคนนี้ จะมาเป็นมือขวาผมได้ยังไง จะยืนยังแทบจะทรงตัวไม่อยู่เลย'

แอนดี้กำหนดจิตให้เป็นสมาธิอีกครั้ง แต่ในจิต ไม่มีความนึกคิดใดปรากฏ เขาจึงสนทนากับสินด้วยสามัญสำนึก

"ว่าไง เรา ! ชอบกินเหล้าเหรอ ?"

สินยกมือขึ้นเกาหัว ยิ้มแหย ๆ

"ก้อ... ไม่ชอบเท่าไหร่ ! แต่เพื่อนกิน ผมก็ต้องกิน"

แอนดี้มองหนุ่มขี้เมาคนนี้ด้วยความเห็นใจ แต่ในจิตไม่มีความรู้สึกอยากจะสอนสั่งแนะนำอะไร เขาจึงเลือกที่จะยืนยิ้ม

ห่างออกไปที่หน้าห้องกรรมฐาน สายตายังมองเห็นครูยาใจ ยืนคุยอยู่กับคุณพิม....แม่ของแพทตี้

แม่ของสินยังเล่าเรื่องราวของลูกชายให้แอนดี้ฟัง

"จะหวังพึ่งอะไรมันก็หวังไม่ได้ ขอให้มันดีแค่ครึ่งนึงของพี่ชายมันได้ แค่นี้อุ่นก็พอใจแล้วค่ะ คุณแอนดี้ลองให้หัวข้อธรรมะอะไรก็ได้ให้มันคิดได้ แต่อุ่นคิดว่า จะให้สินมันมาฝึกกรรมฐานที่นี่ทุกวันอาทิตย์ อยากให้มันเป็นศิษย์ของคุณแอนดี้....."

สายตาของแอนดี้มองไกลออกไปยังคู่สนทนาหน้าห้องกรรมฐาน สีหน้าของครูยาใจดูตึงเครียด

คุณแม่หยุดพูด รอดูว่าแอนดี้จะสั่งสอนลูกชายตัวเองว่าอย่างไร

แอนดี้เดินเข้าไปโอบไหล่ของสิน

"ไป ! เราเดินไปคุยกันตรงโน้นแป๊บนึง" เขาเดินพาลูกชายคนเล็กของนางอุ่นออกไปทางหน้าเรือน

นางอุ่นหันมาส่งยิ้มให้ลูกชายคนโต

"ดีจังเลย ! แม่มั่นใจว่าคุณแอนดี้เอาไอ้สินได้อยู่มือ"

ลูกชายคนโตพยักหน้ารับรู้

"คุณแอนดี้ยังหนุ่มอยู่เลย ! ตอนแสงได้ยินแม่เล่า แสงนึกว่าน่าจะอายุประมาณห้าสิบ"

เพียงไม่ถึงนาที แอนดี้ก็เดินพาสินกลับมา เขาตบบ่าหนุ่มขี้เมาเบา ๆ

"จำไว้นะ ! เราตกลงกันแล้ว !"

สินพยักหน้าหงึก ๆ

คุณแม่ถามขึ้น

"เป็นไงคะ ? ไอ้สิน แกต้องเชื่อคุณแอนดี้นะ อาทิตย์หน้าแกต้องมาเรียนกรรมฐานที่นี่ คุณแอนดี้จะเป็นครูสอนแก"

แอนดี้รีบโบกมือ

"ไม่ต้องครับ ไม่ต้อง !"

นางอุ่นเลิกคิ้ว มองหน้าแอนดี้

"ผมตกลงกับสินไว้แล้ว ลูกผู้ชายต้องรักษาคำพูด กลับไปเค้าจะดีขึ้น ไม่ต้องมาเรียนกรรมฐานหรอกครับ"

คุณแม่อ้าปากค้าง

สายตาสิงห์ต้าลู่ยังมองไปยังคู่สนทนาฟากโน้น

"คุณแม่ไว้ใจตัวคุณลูกเถอะครับ เดี๋ยวกลับไปเค้าจะพิสูจน์ให้เห็นว่า เค้าดีขึ้นได้ ผมขอตัวก่อนนะครับ"

นางอุ่นรีบพยักหน้า

"ได้ค่ะ ! งั้นอุ่นลาไปก่อน ไหว้คุณแอนดี้ซะ" เธอจับแขนลูกชายคนโต

"อ้อ ! นี่แสง ลูกชายคนโต คนนี้ไม่มีอะไรน่าห่วง ทำให้แม่ภูมิใจที่สุด กำลังจะแต่งงาน"

แอนดี้ส่งยิ้มให้

"ยินดีด้วยครับ ! ถ้ามีโอกาส ก็ชวนแฟนมาด้วยสิ มาเป็นเพื่อนแม่"

แสงสั่นหัว

"แฟนผมไม่ได้นับถือพุทธครับ เธอคงไม่สะดวกมา"

แอนดี้ชะงัก

"อ้าว ! งั้นเค้าแต่งกับเรา เค้าจะแต่งได้มั้ย ?"

"เค้าไม่ต้องทำอะไรครับ แต่ผมต้องเปลี่ยนไปนับถือศาสนาเค้า"

แอนดี้พูดไปตามจิตนึก โดยไม่ทันยั้งคิด

"เออ ! น่านับถือหัวใจแฟนเรานะ แฟนเราน่ะ รักศาสนาตนเองมากกว่าผู้ชาย ต้องยังงี้สิ เยี่ยมไปเลย !"

เขาส่งยิ้มให้สามคนแม่ลูก แล้วเดินจากมา

พิมอยู่ในชุดลำลอง เสื้อเชิ้ตสเข้ม กางเกงแสล็คขายาวสีเทา เธอดูสดใสเด็กกว่าวัย

แอนดี้ทักขึ้น

"คุณพิม ! อาจารย์ยาใจไปไหนแล้วครับ ?"

"สวัสดีค่ะ คุณแอนดี้ ! อาจารย์ขึ้นไปข้างบนแล้วค่ะ !"

"คุยอะไรกันซีเรียสเหรอครับ ? ไม่ค่อยได้เห็นอาจารย์มีสีหน้าเคร่งเครียดแบบนี้มาก่อน"

"ก็.... เรื่องที่โรงเรียนน่ะค่ะ ! สองชมรมที่น่าปวดหัว เอ้อ... วันนี้พิมพาแพทตี้มาตามที่คุณแอนดี้บอก แต่ตอนนี้ทิ้งเธอไว้ในฟันปาร์ค จะให้พิมเรียกแพทตี้มาที่นี่เลยมั้ยคะ ?"

แอนดี้ใช้เวลาคิดหนึ่งอึดใจ ก่อนตอบ

"งั้นไม่เป็นไร ! ผมว่าจะไปคุยที่ล็อบบี้ส่วนโรงแรม วันนี้ขอเลี้ยงกาแฟคุณพิมกับแพทตี้ ผมนัดน้องอีกคนนึงไว้ เคยไปที่โรงแรมหรือยังครับ ? ตอนนี้เค้าเปิดให้คนเข้าไปใช้บริการได้แล้ว แต่จะมีการเปิดตัวเป็นทางการเดือนหน้า"

"ยังค่ะ ! ยังไม่เคย"

แอนดี้ผายมือ

"งั้น เราไปกัน บอกแพทตี้ให้ไปเจอที่ล็อบบี้โรงแรมก็ได้ครับ ในฟันปาร์คมีป้ายบอกทางตลอด ไม่น่าจะหลง เดี๋ยวเราสองคนนั่งรถคลับไปนะครับ"

************************************************************************************

แอนดี้เดินนำแม่หม้ายสาวออกมาข้างเรือน ตรงไปยังรถคลับหกที่นั่งที่มีพนักงานชายในชุดฟันปาร์ครอรับอยู่

สิงห์เชิ้ตดำผายมือให้พิมขึ้นนั่งที่แถวสอง เธอก้าวขึ้นรถ แล้วเขยิบตัวชิดด้านขวา เหลือที่ให้แอนดี้ขึ้นมานั่งในแถวเดียวกัน

"ไปที่โรงแรมครับ !" แอนดี้บอกคนขับ

รถคลับเคลื่อนออกจากบริเวณเรือนไม้

"อาจารย์ยาใจมีเรื่องอะไรให้กังวลเหรอครับ ?" แอนดี้เริ่มเปิดฉากสนทนา

"ชมรมผู้ปกครอง กับชมรมศิษย์เก่า มีปัญหากันเอง อาจารย์ยาใจเธอต้องเป็นคนกลาง ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ถูกตำหนิทั้งสองฝ่าย แถมยังมีตัวป่วนเป็นกลุ่มเด็กนักเรียนที่ตั้งกลุ่มขึ้นมาก่อกวน ก่อเรื่องให้สองชมรมนี้ทะเลาะกัน"

แอนดี้พยักหน้าตั้งใจรับฟัง

"ไอ้เด็กกลุ่มนี้เปิดเฟสบุค เปิดเว็บ จับกลุ่มกันนินทา ใส่ร้ายอาจารย์ ข่าวพวกนี้ก็หลุดไปถึงชมรมผู้ปกครอง ชื่อเสียงโรงเรียนก็เสียหาย ผู้ปกครองส่วนนึง ก็เชื่อเด็กกลุ่มนี้ เรียกร้องให้อาจารย์สอบสวนเรื่องที่เด็กกล่าวหา เช่น อาจารย์โกงเงินเด็กบ้าง อาจารย์ล่วงเกินทางเพศบ้าง หรือ อาจารย์มีเรื่องวิวาทกันเองบ้าง แต่ละเรื่องมันฉาวโฉ่ทั้งนั้น จริงหรือไม่จริง ไม่รู้ แต่ผู้ปกครองส่วนนึงเริ่มออกอาการไม่ไว้ใจการบริหารของอาจารย์ยาใจ

ส่วนชมรมศิษย์เก่า พาวเวอร์มากที่สุด ก็รู้สึกเสียชื่อเสียงของสถาบัน ก็พยายามบีบอาจารย์ยาใจ ให้หาตัวคนอยู่เบื้องหลังเด็กกลุ่มนี้ แล้วจัดการให้เด็ดขาด ถ้าเรื่องราวไม่จบบานปลาย ชมรมศิษย์เก่าก็ขู่ว่า จะงดเงินบริจาคต่าง ๆ ซึ่งนี่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคณะกรรมการบริหารเลย เพราะโรงเรียนกำลังจะซื้อที่ใหม่เพื่อขยาย หากไม่ได้เงินส่วนนี้ มีปัญหาแน่ ๆ"

แอนดี้ขมวดคิ้ว

"แล้วสองชมรมนี้ มีเรื่องกันเองด้วยเรื่องอะไรครับ ?"

"ก็ ชมรมผู้ปกครอง เอนเอียงมาทางเด็กกลุ่มนี้ คือ เหมือนกับว่า ลูกหลานพวกเค้าก็คงอยู่ในกลุ่มนี้ แล้วเรื่องที่เด็กกลุ่มนี้แฉออกมา มันก็ยากอยู่แล้วที่ผู้ปกครองจะรู้แล้วเฉย คือ ชมรมผู้ปกครอง แน่นอน ยอมต้องการปกป้องลูกหลานตัวเองจากครูที่ไม่ดี

ต่างจาก ชมรมศิษย์เก่า ชมรมนี้ไม่ค่อยสนใจเรื่องครูดีไม่ดี แต่สนใจอย่างแรกคือ กำจัดเด็กกลุ่มนี้ให้ได้ ไม่งั้นธุรกิจไปไม่รอด"

แอนดี้พยักหน้า

"ให้ผมเดานะ ชมรมศิษย์เก่ามีคนถือหุ้น หรือ มีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจโรงเรียนด้วย"

พิมพยักหน้า

"ค่ะ ! พวกเค้าถึงมีพาวเวอร์ เพราะเป็นเสมือน ผู้ลงทุน หลายคนก็ทำธุรกิจต่อเนื่องกับโรงเรียน เช่น ธุรกิจติวเตอร์ ขายเครื่องกีฬา ขายอุปกรณ์ดนตรี แล้วก็ลงทุนสร้างสนามกีฬา สร้างห้องซ้อมดนตรีให้ จัดหาครูพิเศษที่เก่ง ๆ"

สิงห์ต้าลู่มีสมองที่เฉียบแหลม ความคิดรวบยอดสรุปอยู่ในหัวได้ภายในเวลาไม่ถึงนาที เขายิ้ม หัวเราะเบา ๆ

"ตลกดีเหมือนกัน คนที่กุมอำนาจเรื่องนี้ กลับกลายเป็นเด็กกลุ่มนี้ ใครนะ อยู่เบื้องหลังเด็กกลุ่มนี้ ? เก่งจริง ๆ ! เฮอะ ๆ"

พิมถอนหายใจ

"นี่แหละค่ะ เป็นเรื่องที่อาจารย์ยาใจต้องหาตัวผู้นำเด็กนี้ให้ได้ คือ คนที่เป็นแอ๊ดมินระบบที่พวกเด็กใช้ติดต่อกัน ถ้าหาตัวแอ๊ดมินได้ ปิดระบบได้ จัดการแอ๊ดมินหัวโจก เรื่องก็จะเงียบได้"

************************************************************************************

1 < อ่านหน้า > 3
สั่งซื้อ นิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก กดที่นี่