ตอน 57 หน้า 2/4

งานเลี้ยงแห่งปี (3)

สั่งซื้อ หนังสือนิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก ราคา 380 บาท

วงดนตรีทรีโอสามชิ้นบนเวทีเริ่มบรรเลง สมาชิกของวงเป็นชาวต่างชาติทั้งสิ้น เสียงดนตรีดังออกทางลำโพงที่ตั้งกระจายอยู่ทั่วบริเวณงาน

รุ่งกับกิ๊ว นั่งลงบนเก้าอี้ข้างสนามหญ้า รุ่งเลือกทานหมูยัดไส้แอ๊ปเปิ้ล ซึ่งเป็นเมนูแนะนำของภัตตาคาร ส่วนกิ๊วเลือกสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ

หญิงสาวหนึ่งคน กับ ชายหนุ่มสองคน กำลังเดินเข้าไปที่ซุ้มอาหารอิตาเลี่ยน รุ่งจ้องมองคนกลุ่มนี้ รู้สึกคุ้นตาเป็นอย่างมาก

รุ่งก้มหน้ามองพื้น แล้วพยายามระลึกความทรงจำ เขาเคยเจอคนกลุ่มนี้ที่ไหน ?

เขาเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง ผู้ชายที่อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ รูปร่างเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่หน้าตายังมีเค้าโครงเดิม... ภาพ การปีนต้นไม้แว่บเข้ามาในความทรงจำ !

แล้วเขาก็นึกออก

ไร่ที่โคราช เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว... คุณพ่อคุณแม่ ได้พาเขาไปเที่ยวไร่ของเพื่อน ที่โคราช

ที่นั่น เขาได้พบกับสามพี่น้อง...

ผู้หญิงชื่อแพมเป็นคนโต เขาเงยหน้าขึ้นมองคนกลุ่มนั้นอีกครั้ง พี่แพมโตแล้วยิ่งสวยกว่าเดิม หน้าตาไม่เปลี่ยนไปมากนัก แต่รูปร่างเติบโตเปลี่ยนแปลงไปมาก ชุดแซกที่ใส่ทำให้เธอดูสวยกว่าเสื้อยืดกางเกงขาสั้นที่เขาเคยจำได้เมื่อวันนั้น

คนกลางชื่อพจน์ อายุเท่ากับเขา หน้าตาของพจน์มีเค้าโครงเดิมอยู่มาก แต่รูปร่างสูง และ ใหญ่ขึ้น

รุ่งจำชื่อน้องชายคนเล็กไม่ได้ เขามีอายุห่างจากรุ่งสองปี แต่รุ่งยังจำใบหน้าเขาได้อย่างดี วันนี้ เด็กตัวน้อยเมื่อวันนั้น มีรูปร่างสูงใหญ่ขึ้นตามวัย

เขายังจำได้ดีถึงยามบ่ายที่แสนสนุกของวันนั้นในอดีต... สองพี่น้อง พจน์ และ น้องชาย ได้พาเขาไปปีนต้นไม้ต้นใหญ่กลางไร่ เขาไม่เคยปีนต้นไม้ขึ้นไปสูงถึงขนาดนั้นมาก่อน จำได้ว่า พวกเขาทั้งสามคน ใช้เวลาเล่นอยู่บนต้นไม้เป็นชั่วโมง จนพี่สาวมาตามไปกินข้าวเย็น

พจน์ที่อยู่ข้างบนสุด ท้าให้พี่สาวปีนขึ้นมาให้ถึง ถ้าพี่สาวปีนมาถึง เขาจึงจะยอมลงไปกินข้าว

แพมใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น ค่อย ๆ ปีนต้นไม้ขึ้นมา เธอมีท่าทางคล่องแคล่วว่องไว ไม่นานนัก ก็ปีนขึ้นมาถึงระดับเดียวกับที่เขานั่งอยู่ แล้วเธอก็จับกิ่งไม้เหนือหัว ปีนต่อไปจนถึงพจน์ แล้วบังคับให้น้องชายลงมากินข้าว

ในระหว่างที่ปีนลงมา พจน์โดนกิ่งไม้ข่วนจนเป็นแผลยาว เลือดไหลอาบขา ต้องกลับไปที่บ้าน คุณแม่ของรุ่งต้องช่วยล้างแผล แล้วทำแผลให้

ความทรงจำวัยเด็กกลับมาพร้อมรอยยิ้ม วันนั้นเป็นวันที่มีความสุขมาก มากจนกระทั่งเมื่อเขากลับมาที่กรุงเทพ ฯ เขาเคยนอนฝันถึงพี่น้องสามคนนี้ แต่ตั้งแต่นั้น รุ่งก็ไม่มีโอกาสได้เจอพวกเขาอีก

รุ่งพูดกับกิ๊ว

"กิ๊ว นั่งกินตรงนี้ก่อนแล้วกัน พี่เห็นคนรู้จัก จะเข้าไปทักหน่อย"

กิ๊วถามขึ้น

"คนไหนอะ ?"

รุ่งชี้ไปที่ซุ้มอาหารอิตาเลี่ยน

กิ๊วมองตาม แล้วอมยิ้ม

"แหม... เจอคนสวยเลยทิ้งน้องเลย ไปเหอะ เดี๋ยวกิ๊วนั่งกินตรงนี้ก่อน"


รุ่งเดินตรงเข้าไปที่ซุ้มของภัตตาคาร เทร สกาลินี่

พจน์... น้องชายคนกลาง เป็นฝ่ายที่เห็นรุ่ง สีหน้าบ่งบอกทันทีว่า เขาจำรุ่งได้ สายตาที่เบิกโต และ รอยยิ้มที่ฉีกกว้างอย่างฉับพลัน เป็นเครื่องยืนยัน

พจน์หันไปสะกิดพี่สาว

"พี่แพม พี่แพม ดูนี่สิ จำได้หรือเปล่า ว่าใคร ?"

แพมหันกลับมา

รุ่งเรียกชื่อ

"พจน์ จำเราได้หรือเปล่า ?"

น้องชายคนเล็ก ฉีกยิ้ม เป็นสัญญาณว่า เขาก็จำได้เหมือนกัน

"พี่รุ่ง"

พจน์รีบเดินเข้ามาหา แล้วยื่นมือให้จับ รุ่งจับมือตอบ แล้วบีบแน่น

"พจน์ มาอยู่ในงานนี้ได้ยังไง ?"

แพมกับน้องชายคนเล็กรีบเดินเข้ามาทักทาย

รุ่งชี้หน้าน้องชายของพจน์ ที่บัดนี้ มีความสูงเกือบจะเท่าเขาแล้ว

"ตัวโตเร็วจัง ชื่ออะไร ลืมไปแล้ว ?"

เขาชี้หน้าตัวเอง

"แพทไง ปีนี้ผมยี่สิบสี่แล้ว"

รุ่งจับแขนแพท แล้วเขย่า

แพมยืนอยู่ข้างรุ่ง

"รุ่ง จำพี่ได้หรือเปล่า ?"

รุ่งพยักหน้า

"จำได้ จำได้ พี่แพมสวยขึ้นเยอะเลย แต่แต่งตัวอย่างนี้ คงปีนต้นไม้ไม่ได้เหมือนก่อนแล้ว"

แพมหัวเราะ

รุ่งมองพจน์ตั้งแต่ใบหน้า ลงมาลำตัว

"ตัวใหญ่ขึ้นมากเลยนะ พจน์ กี่ปีแล้วเนี่ย ?"

"รุ่งก็สูงขึ้นมาก"

แพมตอบ

"สิบสาม หรือ สิบสี่ปีได้แล้วมั้ง จำได้ว่าตอนนั้นพี่ยังเรียนมอสาม"

แพทเสริมขึ้น

"ใช่ ๆ สิบสี่ปีมั้ง ตอนนั้นแพทเรียนปอห้า"

รุ่งหันมาที่พจน์

"แผลที่ขาเป็นยังไงบ้าง ? แม่ฝากถาม"

พจน์ทำท่าประหลาดใจ

"อ้าว ! คุณป้ารู้เหรอว่าจะมาเจอพวกเราในงาน ?"

รุ่งหัวเราะ

"แม่คงรู้แหละ มีที่โง่ไม่รู้คนเดียว คือ เรานี่แหละ ตกลง นี่สามพี่น้องมาอยู่ในงานนี้ได้ยังไง ?"

แพมตอบ

"ก็มาเกือบทุกปี แต่ปีนี้ พี่ได้ข่าววงในว่า รุ่งจะต้องมา ในที่สุด เราก็ได้เจอกันจริง ๆ แต่ไม่นึกว่ารุ่งจะมาช่วยเสิร์ฟน้ำด้วย"

รุ่งก้มลงมองที่เสื้อกั๊กตัวเอง

"เอ่อ... ไม่ใช่ยังงั้น คือ เรื่องมันน่าอายอะ เสื้อเชิ้ตตัวในมันขาดน่ะ ผมจำเป็นต้องเอาเสื้อกั๊กของพนักงานเสิร์ฟมาสวมทับ"

พจน์ถามขึ้น

"รุ่งปลอมตัวเข้ามาเหรอ ?"

รุ่งหัวเราะ

"เปล่า ๆ คือ... เอ่อ... เรื่องเสื้อกั๊กนี่ ช่างมันก่อนเหอะ แต่เมื่อกี๊พี่แพมบอกว่า ข่าววงในว่าผมจะมา แสดงว่าครอบครัวพี่แพมสนิทกับครอบครัวผมเหรอ ?"

แพมหัวเราะ

"เอ้า... ! แล้ววันที่คุณลุงกับคุณป้าพาไปที่ไร่โน่นน่ะ รุ่งไม่รู้เลยเหรอว่าไปหาใคร ?"

รุ่งสั่นหัว

"จำไม่ได้หรอก ไม่ค่อยได้สนใจว่าใครเป็นใคร สำคัญคือมีที่ให้เล่น มีข้าวให้กิน นอกนั้น ผมไม่ค่อยถามอะไรมากมายหรอก"

สามพี่น้องหัวเราะ

พจน์เป็นฝ่ายเฉลย

"พ่อของรุ่ง กับพ่อของเรา เป็นเพื่อนกัน ครอบครัวเราสนิทกัน"

แพทพูดแทรก

"จริง ๆ คือ โคตรของเรา สนิทกัน พูดยังงี้ตรงกว่าพี่พจน์"

พจน์หัวเราะ

"อือ ใช่ กิจบูรณา กับ ไตรสรณ์น่ะ รู้ใช่หรือเปล่า ?"

รุ่งเลิกคิ้ว จ้องมองหน้าทั้งสามพี่น้อง

"อ้าว ! ชิบหาย ! นี่ครอบครัวกิจบูรณาเหรอนี่ ?"

พจน์หัวเราะดังลั่น

"ทำไมต้องชิบหายด้วย รุ่ง ?"

รุ่งยกมือขึ้นเกาหัว บ่นพึมพำ

"โห...! ทำไมเด็ก ๆ กูโง่จังวะ ? ไปเที่ยวบ้านเค้า ไม่ได้สนใจเล้ย ว่าเค้าเป็นใคร" เขาพูดแล้วก็ขำในความไร้สาระของตัวเองในอดีต

แพมหัวเราะ

"ไม่แปลกหรอกรุ่ง เด็ก ๆ เราไม่ค่อยจะจำหรอกว่าใครนามสกุลอะไร แค่จำหน้าจำชื่อได้ก็พอแล้ว"

รุ่งมองหน้าแพม ถ้าแพมคือคนในครอบครัวของกิจบูรณา เช่นนั้น ก็เป็นไปได้ว่า เธอเป็นแพมคนเดียวกันกับที่เขาเคยเห็นที่หน้าเรือนไม้ที่บางกอกซีดาร์ฟันปาร์ค แต่วันนั้น เธออยู่ในระยะที่ไกลจากสายตามากกว่าวันนี้

"งั้นอาทิตย์ก่อนโน้น ที่ซีดาร์ฟันปาร์ค ผู้หญิงที่ผมเห็นเดินเข้าไปที่เรือนไม้ ก็คือพี่แพมนี่สิ ใช่เลย เพราะน้องวิพูดว่าชื่อแพม"

แพมพยักหน้า

"อือ... ก็คงใช่ พี่ก็ไปที่นั่นบ่อย แล้วทำไมรุ่งไม่เดินเข้าไปทักล่ะ ?"

"ทักอะไรล่ะ ผมยืนอยู่ตั้งไกล เห็นไม่ชัดหรอกว่าหน้าตาเป็นยังไง แค่น้องวิบอกว่าชื่อแพม"

"เรือนไม้เสร็จเรียบร้อยแล้ว อีกไม่กี่วัน รุ่งคงได้ไป"

คำถามมากมาย เริ่มผุดออกมาจากหัวสมองของรุ่ง

"ถ้างั้น อาน้อย ก็เป็นญาติของพี่แพม ?"

แพมพยักหน้า

"ใช่สิ อาน้อย เป็นน้องของพ่อ เป็นคุณอา"

รุ่งพยักหน้า

"งั้นพี่แพมก็ต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับครอบครัวผม เรือนไม้นั่นมีอะไรสำคัญสำหรับผมเหรอครับ ? แล้วห้องอาร์เอ็มเอที่เรือนไม้นั่น มีไว้ทำไม ?"

แพมมองหน้าพจน์ เธอตั้งตัวไม่ทัน ไม่คิดว่าจะได้รับคำถามเหล่านี้จากรุ่งในวันนี้

พจน์ขยับตัวเข้ามา

"รุ่ง ครอบครัวของเราน่ะ หมายถึงครอบครัวกิจบูรณาน่ะ ศรัทธาในตัวพ่อของรุ่งมาก แล้วพวกเราทุกคน ก็รักรุ่ง รักมากกว่าคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากันจะรักได้ คนในกิจบูรณาทุกคน บางคนยังไม่เคยเห็นหน้ารุ่งด้วยซ้ำ แต่เขาก็รักรุ่ง อยากให้รุ่งเชื่อตรงนี้ก่อน เรื่องอื่น ๆ ที่เรายังเล่าไม่ได้ ขอให้รุ่งเข้าใจ อย่าโกรธพวกเรา ถ้าถึงเวลา จะมีคนเล่าเรื่องทั้งหมดให้รุ่งฟัง"

ยิ่งฟังคำตอบ ยิ่งทำให้เขาฉงน เหตุใดเรื่องราวของชีวิตเขา ถึงกลายเป็นเรื่องลึกลับซับซ้อนเหมือนตัวละครในนิยายน้ำเน่า

รุ่งพยักหน้าช้า ๆ แล้วยิ้มแหย ๆ

"อือ... เราไม่โกรธหรอก ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษตัวเองที่เราไม่เคยจะถามหาเรื่องราวอะไร ๆ ตั้งแต่เด็ก เหมือนกับคนที่ไม่ยอมรับรู้อะไร ๆ ที่มันหนักสมอง จริง ๆ เราดีใจด้วยซ้ำที่ได้เจอทั้งสามคนในงานนี้"

พจน์เห็นสีหน้ารุ่งแล้วรู้สึกเห็นใจเป็นอย่างมาก เขาพยักหน้า แล้วบอกกับพี่สาว

"พี่แพม ผมกับรุ่งจะเดินออกไปคุยกันทางโน้นก่อน"

พจน์จับบ่าของรุ่ง แล้วพยักหน้าให้รุ่งเดินตามออกไป

พจน์เดินนำรุ่งออกมาเลยบริเวณซุ้มอาหาร แล้วหยุด เริ่มพูดขึ้น

"รุ่งรู้เรื่องบูรณาไตรสรณ์ ?"

รุ่งพยักหน้า

"นิดหน่อย ไม่มากนัก พจน์เล่ามาเถอะ เราเป็นคนที่รู้อะไรน้อยมากเกี่ยวกับครอบครัวไตรสรณ์"

"กิจบูรณา กับ ไตรสรณ์ เริ่มต้นที่คุณทวดของรุ่งกับคุณทวดของเรา เป็นเพื่อนสนิทกัน ทำธุรกิจร่วมกัน

ต่อมารุ่นคุณปู่ของรุ่ง คุณปู่ได้ดึงครอบครัวแก่งอุดมซึ่งเป็นญาติฝ่ายย่าทวดเข้ามาร่วมด้วย คุณปู่ของรุ่งพยายามจะแยกธุรกิจให้ไตรสรณ์หลุดออกจากกิจบูรณา

คุณปู่ของรุ่งปลูกฝังลูกมาตลอดว่า จะต้องเป็นอิสระจากกิจบูรณา แต่พอคุณพ่อของรุ่ง เริ่มเข้ามาทำงาน คุณพ่อรุ่งกลับไม่เห็นด้วยกับคุณปู่ แล้วเลือกที่จะร่วมธุรกิจกับกิจบูรณาต่อไป

เรื่องนี้ทำให้เกิดปัญหารุนแรงระหว่างพ่อรุ่งกับคุณปู่รุ่งเอง จนตัดขาดกัน เมื่อคุณปู่ของรุ่งเสียไปแล้ว เรื่องเหล่านี้ก็น่าจะจบกันไป คนรุ่นใหม่ก็น่าจะหันหน้ามาประสานรอยร้าวกันได้ ภายนอกมันน่าจะเป็นอย่างนั้น อา ๆ ของรุ่งก็คิดว่าเรื่องน่าจะเป็นอย่างนั้น

แต่กิจบูรณารู้มากกว่านั้น อา ๆ ของรุ่งน่ะ ไม่ใช่เป็นตัวตายตัวแทนเดียวเท่านั้นที่คุณปู่วางไว้ เพราะ อาของรุ่ง ยังไงก็เป็นน้องของลุงวีระ สุดท้าย มันยังมีเยื่อใยอะไรที่ทำให้ไตรสรณ์เชื่อมกับกิจบูรณาได้ ตัวเชื่อมนั้นก็คือรุ่ง

แต่คุณปู่รุ่งไม่ได้ต้องการให้มันจบอย่างนั้น ท่านถ่ายทอดความคิดและอุดมการณ์ทั้งหมดไปที่ครอบครัวแก่งอุดม"

รุ่งขมวดคิ้ว

"ครอบครัวแก่งอุดม !"

"ใช่ เรื่องนี้ ใครจะไปพูดให้อาของรุ่งฟังได้ เขาจะเชื่อใคร ระหว่างแก่งอุดม ซึ่งเป็นญาติของเขา กับ กิจบูรณา ?"

"หมายถึง แก่งอุดมจะพยายามแยกไตรสรณ์ให้ออกจากกิจบูรณา ?"

พจน์พยักหน้า

"จะพูดยังงั้นก็ได้ ความจริงต้องพูดว่า จะแยกกิจบูรณาให้ออกจากพวกเขา เพราะแก่งอุดมกับไตรสรณ์ ก็ถือว่าเป็นญาติกัน กิจบูรณาน่ะเป็นคนนอก แต่ภายในไตรสรณ์เอง ไตรสรณ์ก็ยังถือว่าแก่งอุดมน่ะเป็นคนนอก คนในที่สุดต้องนามสกุลไตรสรณ์เท่านั้น"

รุ่งเริ่มงง

"ถ้ายังงั้น ไตรสรณ์กับแก่งอุดม ก็ไม่ได้แนบเแน่นเป็นเนื้อเดียวกันเหรอ ? เป็นญาติกันอยู่แล้ว จะต้องมาแบ่งว่าในกับนอกอีก"

พจน์ถอนหายใจ

"เรื่องนี้มันซับซ้อน อามัณของรุ่งน่ะ เธอเป็นคนเก่ง แล้วก็ฉลาด เธอบริหารธุรกิจมาได้ขนาดนี้ไม่ใช่เพราะดวง เธอพยายามรักษาสัดส่วนของธุรกิจไม่ให้ไตรสรณ์เสียเปรียบกิจบูรณา แต่เวลาเดียวกัน เธอก็กันไม่ให้แก่งอุดม เข้ามาก้าวก่ายมากเกินไป นั่นก็เป็นข้อดี"

สีหน้ารุ่งแสดงถึงความหนักใจ เมื่อได้ยินเรื่องราววุ่นวายของครอบครัวเช่นนี้

"เราไม่ชอบฟังเรื่องพวกนี้เลย น่าเบื่อว่ะ ต่างคนต่างแย่งผลประโยชน์กัน"

พจน์ยกมือแตะหัวไหล่สหายเก่า

"อือ... เข้าใจ ฟังอีกเรื่องนึงแล้วกัน ลุงวีระยังมีชีวิตอยู่ เรื่องเครื่องบินตกในอังกฤษเป็นแค่การจัดฉาก คนที่ร่วมมือการจัดฉากนี้คือกิจบูรณา ร่วมกับลุงวีระเอง"

รุ่งมองหน้าพจน์ นัยน์ตาจ้องเขม็ง

"หา ! จัดฉาก ? จัดทำไม ? แล้วตอนนี้ พ่อเราอยู่ที่ไหน ?"

"เรื่องมันยุ่งยากซับซ้อน ต้องให้คุณย่าเจนเป็นคนเล่าเรื่อง แต่สิ่งที่ตอบไม่ได้คือ ลุงวีระตอนนี้อยู่ที่ไหน เรื่องนี้เป็นความลับที่สุด แม้แต่เราสามพี่น้อง ก็ไม่รู้ว่าลุงวีระอยู่ที่ไหน"

"แต่คุณหญิงเจนรู้ ?"

พจน์นิ่งสักอึดใจ แล้วพยักหน้า

"คิดว่ารู้"

รุ่งเริ่มคิดตามข้อมูลที่ได้ฟังมา หากการจัดฉาก มีไว้เพื่ออันตรธานตัวเองให้หายไปจากคุณปู่ บัดนี้ คุณปู่ก็สิ้นแล้ว เรื่องน่าจะจบ

"พ่อของเราต้องหนีใครเหรอ ? ตอนนี้คุณปู่ก็เสียไปแล้ว ทำไมถึงยังต้องปิดเป็นความลับว่าพ่อเราอยู่ที่ไหน ?"

"ลุงวีระไปอยู่ที่ไหน เรื่องนี้คงจะให้ใครรู้ไม่ได้เป็นอันขาด โดยเฉพาะ แก่งอุดม"

เสียงแพทตะโกนมาแต่ไกล

"พี่พจน์ พวกเราต้องเข้าไปในตึกใหญ่แล้ว ข้างในเค้ากินข้าวจะเสร็จกันแล้ว"

พจน์โบกมือให้สัญญาณว่ารับรู้

"เดี๋ยวเราต้องกลับเข้าไปในตึกใหญ่ ต้องเข้าไปไหว้คุณย่าเฉลาพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่"

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงออกมา แล้วกดให้หน้าจอแสดงเบอร์โทรศัพท์

"รุ่ง นี่เบอร์โทรศัพท์ของเรา จดไว้ แล้วมีเวลาโทรหากันนะ"

รุ่งหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมา บันทึกเบอร์ของพจน์ไว้

รุ่งจับแขนของพจน์แล้วบีบแน่น

"ขอบคุณมาก ดีใจที่ได้เจอกันอีก"

สหายเก่าพยักหน้าแทนคำตอบว่า ดีใจเช่นเดียวกัน ก่อนที่จะรีบปลีกตัวจากไป

***************************************************************************** 

1, <อ่านหน้า> 3 , 4
นิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก เปิดให้จองแล้ว กดที่นี่