ตอน 57 หน้า 1/4

งานเลี้ยงแห่งปี (3)

จองหนังสือนิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก กดที่นี่

ห้องโถงคฤหาสน์หลังใหญ่.... โต๊ะอาหารทรงยาวสี่เหลี่ยมผืนผ้าเจ็ดตัวถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ

บนโต๊ะมีชุดภาชนะอาหารที่ถูกจัดตามแบบสากล พร้อมแจกันดอกไม้ประดับตกแต่งสร้างความสดชื่นให้กับโต๊ะอาหาร

แอร์ในระบบท่อฝัง ควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโถงนี้ ให้มีระดับต่ำกว่าอุณหภูมิภายนอกเล็กน้อย

น้อยหน่า... พิธีกรสาว รู้สึกยินดีที่ได้รับอภิสิทธิ์เข้ามาถ่ายทำสกู๊ปพิเศษในห้องนี้

เธอกับตากล้องหนุ่มยืนอยู่ที่มุมของโถงอีกด้านหนึ่ง กำลังสัมภาษณ์หัวหน้าบริกร แบ็กกราวด์ของซีน คือ บรรยากาศห้องอาหาร... โต๊ะอาหาร และ แขกเหรื่อที่ทยอยกันเดินเข้ามาในห้อง

หัวหน้าบริกรหนุ่ม กำลังอธิบายถึงระเบียบในการจัดโต๊ะอาหาร

"... วันนี้ เราจัดโต๊ะตามแบบมาตรฐานดินเนอร์ยุโรปเต็มเซ็ท ด้วยอุปกรณ์ยี่สิบเอ็ดชิ้น ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับห้องอาหารนานาชาติระดับแนวหน้าทั่วไป"

น้อยหน่าพยักหน้ารับรู้

"ค่ะ น่าสนใจมาก น้อยหน่าเห็นโต๊ะอาหาร เต็มไปด้วยแก้วจานชามช้อนส้อมมากมาย ดูแล้วก็งงว่าอุปกรณ์ไหนใช้ทำอะไร รบกวนคุณวรฤทธิ์อธิบายอุปกรณ์ยี่สิบเอ็ดชิ้นได้มั้ยคะ ว่ามีอะไรบ้าง ? รวมแจกัน กับ การ์ดเมนูด้วยหรือเปล่าคะ ?'

หัวหน้าบริกรหนุ่ม พยักหน้า

"ได้ครับ ชุดอาหารมาตรฐานยุโรปยี่สิบเอ็ดชิ้น จะไม่รวมแจกัน กับ การ์ดเมนูครับ เชิญคุณน้อยหน่าเดินมาที่โต๊ะอาหารโต๊ะแรกนี้ ผมจะอธิบายชุดอุปกรณ์ทีละชิ้น"

วรฤทธิ์เดินไปที่โต๊ะอาหารตัวที่ใกล้ที่สุด แล้วเริ่มผายมือไปที่อุปกรณ์บนโต๊ะแต่ละชิ้น

"ชิ้นที่หนึ่งคือจานรองครับ สองคือผ้าเช็ดปาก ต่อมาสาม คือช้อนซุป ต่อมาเป็นชุดมีด ชิ้นที่สี่มีดออร์เดิร์ฟ ชิ้นที่ห้าคือมีดหั่นปลา ชิ้นที่หก คือ มีดหั่นเนื้อ ชิ้นที่เจ็ดคือ ส้อมทานเนื้อ แปดคือ ส้อมทานปลา เก้าคือส้อมสำหรับออร์เดิร์ฟ ชิ้นที่สิบคือจานใส่ขนมปัง สิบเอ็ดคือ ช้อนกาแฟ สิบสองคือส้อมสำหรับผลไม้ สิบสามคือมีดหั่นผลไม้ สิบสี่คือช้อนไอศครีม สิบห้า คือ ที่ทาเนย สิบหกคือ มีดตัดเนย สิบเจ็ดคือ จานรองเนย ต่อมาก็เครื่องแก้ว ชิ้นที่สิบแปดคือ แก้วใส่น้ำเปล่า สิบเก้าแก้วใส่แชมเปญ ยี่สิบคือแก้วใส่ไวน์แดง ยี่สิบเอ็ด คือ แก้วใส่ไวน์ขาว"

น้อยหน่าหัวเราะเบา ๆ

"นี่ถ้าให้น้อยหน่าทวนอีกครั้ง คงจำไม่ได้อยู่ดี มากมายเหลือเกิน นี่คือ ครบชุดยี่สิบเอ็ดชิ้น ใช่มั้ยคะ ?"

"ครับ นี่คือชุดมาตรฐานของยุโรป"

"ค่ะ ขอบคุณคุณวรฤทธิ์มากค่ะ ต่อไป น้อยหน่าจะพาไปพบกับ หัวหน้าเชฟในห้องครัว เราจะไปดูวิธีการเตรียมอาหารสำหรับงานไฮโซระดับนี้"

น้อยหน่าพยักหน้าให้ตากล้องตัดภาพได้

สมาชิกครอบครัวไตรสรณ์ เริ่มเชิญแขกเข้าประจำที่โต๊ะอาหารตามรายชื่อที่ถูกระบุในป้ายบนโต๊ะอาหาร

เจ้าภาพ... คุณเฉลา อยู่ในชุดเสื้อคลุมสีฟ้าอ่อน กระโปรงสีฟ้าอ่อน หน้าตายิ้มแย้ม เดินเข้ามาที่นั่งหัวโต๊ะของโต๊ะอาหารตัวแรก บริกรหญิงจัดแจง เลื่อนเก้าอี้ให้

โต๊ะตัวเดียวกัน มีสมาชิกครอบครัวแก่นอุดมนั่งร่วมด้วย

ครอบครัวไตรสรณ์แยกย้ายกันไปนั่งตามโต๊ะต่าง ๆ เพื่อต้อนรับแขกตามที่มัณฑนา... กุนซือของบ้านได้วางผังไว้

ชายวัยห้าสิบปี จูงเด็กสาววัยเจ็ดขวบเข้ามาหาคุณยายเฉลา

เด็กน้อยเดินเข้าไปที่ข้างเก้าอี้ แล้วยกมือไหว้

"สวัสดีค่ะคุณยาย"

คุณยายโอบหลานสาวไว้ในอ้อมแขน

"สวัสดีครับ คุณแม่ สุขสันต์วันเกิดครับ" โอภาสก้มตัวลงยกมือไหว้แม่ยาย พร้อมกับรับไหว้สมาชิกครอบครัวแก่งอุดม

"ว่าน หลานเพิ่งมาเหรอ ? ยายรอตั้งนาน คุณแม่อยู่ที่ไหนล่ะ ?"

โอภาสตอบแทนลูกสาว

"ชูจิตเข้าห้องน้ำครับ ประเดี๋ยวคงตามมา"

แม่ยายยิ้มให้ลูกเขย ยื่นมือมาให้ลูกเขยจับ

"โอภาส ตอนนี้กลับมาประจำที่กรุงเทพ ฯ แล้วหรือยัง ?"

ลูกเขยพยักหน้า

"กลับมาแล้วครับ แต่ก็ไป ๆ มา ๆ ต้องวิ่งขึ้นลงเป็นประจำ"

"มัณเค้าจัดให้เรานั่งโต๊ะไหนล่ะ ?"

โอภาสหันไปชะเง้อมอง

"น่าจะโต๊ะเดียวกับ คุณจิ๋ม คุณเพ็ญ"

แม่ยายพยักหน้ารับรู้ มือก็ลูบหัวหลานสาว

"เดี๋ยวทานข้าวเสร็จ ออกไปข้างนอกนั่งคุยกับยายนะ ยายคิดถึง"

เด็กน้อยพยักหน้า

"ค่ะ คุณยาย วันนี้พี่รุ่งมาด้วยเหรอคะ ? คุณแม่บอกว่าวันนี้พี่รุ่งจะมา"

ยายพยักหน้า

"จ้ะ ! พี่รุ่งมา แต่พี่รุ่งอยู่ข้างนอก เดี๋ยวเราทานเสร็จ เราออกไปเดินหาก็คงเจอนะ"

ว่านพยักหน้า โอภาสเดินจูงมือลูกสาวกลับไปยังโต๊ะอาหารของตัวเอง

จ๊อดอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีเทา กางเกงแสล็คสีดำ เดินเข้ามาทักทายกับอาเขย

"อาโอภาส สวัสดีครับ" เขายกมือไหว้

"อ้าว จ๊อด ไม่ใส่แว่นแล้วหรือ ? ไปทำเลสิคมาเหรอ ?"

จ๊อดพยักหน้า

"ครับ ผมไปผ่ามา ตอนนี้ไม่ต้องใส่แว่นแล้ว"

เขาย่อเข่าลงทักทายลูกพี่ลูกน้อง

"ว่าน เป็นไง ? หน้าพี่จ๊อดตลกมั้ย ?"

ว่านจ้องหน้าลูกพี่ แล้วหัวเราะคิกคัก

"ตลกค่ะ ตาพี่จ๊อดเล็ก ๆ ตลกดี"

ชูจิตอยู่ในชุดราตรีสีเขียวอ่อน กำลังเดินมากับสาวสวยที่อยู่ในชุดราตรีสายเดี่ยวสีน้ำเงินเข้ม ดูแปลกตา และ เด่นกว่าบุคลิกเดิมที่เธอเคยเป็น

ว่านชี้มือไปที่ลูกพี่สาว

"วันนี้พี่วิสวยจังเลย"

วิเดินเกาะแขนชูจิตเข้ามาในโถง ฝีมือการแปลงโฉมของช่างแต่งหน้าประจำตัวของมัณฑนา ทำให้นักศึกษาสาวไร้เดียงสาอย่างวิภวา กลายเป็นสาวที่เฉิดฉายในชุดราตรีที่เตะตาผู้คนรอบข้าง

ชูจิตกระซิบข้างหูหลานสาว

"น้องวิ อย่าเดินห่อไหล่ หลังตรงหน่อย"

วิภวาเชิดหน้า ยืดแผ่นหลังให้ตรง แล้วเดินคู่กับอาสาวมาที่โต๊ะอาหาร เธอพยายามมีสมาธิไม่สนใจสายตาของผู้คน

เสียงของต้นดังมาจากข้างหลัง

"เอ๊.. น้องวิไม่เห็นมาซักที ใครเห็นน้องวิบ้าง ?"

วิรู้ทันทีว่า ต้นกำลังหยอกเธอ เธอหันหลังกลับไป

"เงียบไปเลย ถ้าขืนพูดต่อ คืนนี้วิไม่คุยด้วย"

ต้นหัวเราะเบา ๆ

"ถือว่าวันนี้สวยแล้วหยิ่งเหรอ วิ ?"

ต้นเดินเข้ามาข้าง ๆ วิ

"แต่วันนี้มีคนชิงเด่นกว่าแล้ว โน่น ผู้หญิงที่ใส่ชุดแดงโน่น เห็นปล่าว ?"


วิมองไปตามที่ต้นบอก เลอหงส์ในชุดราตรีสีแดง กำลังยืนสนทนากับนักลงทุนชาวจีน และ ธรรม์

วิเบิกตาโต

"ใครอ่ะต้น ? สวยจังเลย ใส่ชุดแดงด้วยนะ วิไม่กล้าใส่หรอก"

"พูดได้สี่ภาษาเลย อามัณบอก เจ๋งป่ะล่ะ ? "

อาสาวฉุดแขนหลานสาวเดินไปที่โต๊ะอาหาร เดินหาป้ายชื่อของตัวเอง

วิมองเห็นป้ายชื่อของต้น เธอสลับป้ายชื่อ ให้ต้นมานั่งติดกับเธอแทน

ต้นชะโงกหน้าเข้ามา

"ทำอะไรน่ะวิ ?"

"เฉยเหอะ ต้นมานั่งติดกับวิ จะได้คุยกัน"

ต้นมองที่ป้ายชื่อ

"ไม่เข้าใจ ทำไมต้องมีป้ายชื่อระบุที่นั่ง ? นี่ต้องกำหนดหัวข้อการคุยกันด้วยหรือเปล่า ? แล้วอีกอย่าง ทำไมต้องสะกดเป็นภาษาอังกฤษ กลัวฝรั่งจะมาแย่งที่นั่งพวกเราหรือไง ?"

"อย่าบ่นน่า" วิหันมาพูดกับลูกพี่ลูกน้อง

"ดีเหมือนกัน วิรีบไปเรียนอะเบอร์ดีน จะได้เป็นอิสระซะที เจออะไรใหม่ ๆ"

ญาติสาวสั่นหัว

"อึ๊อือ ! ไม่ไปหรอก หัวใจวิอยู่ที่นี่ อิ อิ" พูดแล้วเธอก็หัวเราะตัวเอง

ต้นหัวเราะร่า

"ถามจริง ? ใคร ?"

วิรีบสั่นหัว

"ปล่าวหรอก พูดเล่นน่ะ"

"เดี๋ยวต้นเดินไปสวัสดีกิจบูรณาก่อน ไปด้วยกันหรือเปล่าวิ ?"

วิพยักหน้า แล้วเดินตามต้นไป

ครอบครัวกิจบูรณาทั้งหมดถูกจัดให้นั่งร่วมโต๊ะอาหารเดียวกัน

น้อยหน่ากำลังให้ตากล้องจับภาพบรรยากาศในงาน เธอให้เสียงบรรยายประกอบ

"แขกแต่ละท่านต่างทักทายกันตามประสาคนที่รู้จักสนิทกันมานาน ว่ากันว่า ครอบครัวไตรสรณ์กับกิจบูรณานั้น ทำธุรกิจร่วมกันมานานกว่าสี่สิบปี โต๊ะอาหารที่ตั้งอยู่กลางห้องนั้น เป็นของครอบครัวกิจบูรณา ผู้ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะคือ คุณหญิงเจน สมาชิกที่นั่งร่วมโต๊ะคาดว่าเป็นคนในครอบครัวกิจบูรณาทั้งหมด"

สาวที่เด่นที่สุดในห้องโถง... ใส่ชุดราตรีสีแดงสด ค่อย ๆ เดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารของกิจบูรณา สายตาของหนุ่ม ๆ ต่างก็เหลือบมองหงส์น้อย ส่วนใหญ่อยากรู้ว่า เธอผู้นี้เป็นใคร มาจากไหน

เลอหงส์เดินตรงเข้ามาที่คุณหญิงเจน แล้วค้อมหลังเล็กน้อย ยกมือสวัสดี

"คุณป้า สวัสดีค่ะ ?"

คุณหญิงยิ้มให้

"เป็นยังไง หงส์ ? ทุกอย่างราบรื่น ?"

หงส์พยักหน้า

"ค่ะ คุณป้าคะ คุณป้าเคยได้ยินนามสกุลแก่งอุดมมั้ยคะ ?"

คุณหญิงตอบทันที

"แก่งอุดมเป็นญาติกับไตรสรณ์ พวกเค้านั่งอยู่โต๊ะแรกโน่นไงล่ะ หงส์อยากรู้จักเหรอจ๊ะ ?"

เป็นคำตอบที่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้รับอย่างรวดเร็วเช่นนี้ หงส์ชะเง้อมองไปที่โต๊ะประธาน เธอตอบคุณหญิง

"ค่ะ แต่เดี๋ยวหงส์คงหาทางรู้จักได้เอง วันนี้คุณป้าแต่งตัวสวยมากเลย อาการเจ็บเข่าดีขึ้นหรือยังคะ ?"

คุณหญิงเอื้อมมือมาจับแขนหงส์

"พอทนได้น่ะ หงส์ ป้าอยากเห็นหงส์มาอยู่ที่นี่คืนนี้ แล้ววันนี้หงส์ก็มาได้ หงส์เป็นคนสำคัญนะ หงส์เป็นตัวแทนของแอนดี้ ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี หงส์อาจจะต้องไปทำงานที่เฉิงตูซักพัก แต่ไว้เราค่อยคุยกันวันหลัง วันนี้ ป้าก็ขอให้หงส์ได้ทำความรู้จักคนเหล่านี้ไว้"

หงส์พยักหน้า แล้วจับมือของคุณหญิงอย่างกระชับ แทนคำตอบ

หงส์ค่อย ๆ เดินกลับมาที่โต๊ะ สายตาจ้องไปที่โต๊ะอาหารของครอบครัวแก่งอุดม

*********************************************************************************

กิ๊วกับเหล่าเพื่อน ๆ กำลังเดินดูซุ้มอาหาร ทุกคนต่างตื่นตาตื่นใจกับอาหารหลายหลากที่เจ้าภาพเตรียมมาต้อนรับ

บอยกับเพื่อนผู้ชาย แยกเดินออกไปที่ซุ้มน้ำ กิ๊วกับเพื่อนสาว ๆ ยืนอยู่ที่ซุ้มภัตตาคารเคียวเบ

ข้าวห่อสาหร่ายไส้รวมเป็นที่ถูกใจของกิ๊วเป็นอย่างมาก เธอพยักหน้ากับเพื่อน

"สุโค่ยว่ะ เชอรี่"

เชอรี่พยักหน้า

"อือ ข้าวปั้นหน้าปลาดิบนี่ก็สดดี ลองดูสิ กิ๊ว"

"เดี๋ยวชั้นจะสั่งสเต็กเนื้อดีกว่า กลิ่นมันยั่วยวนใจเหลือเกิน"

เชอรี่หัวเราะเบา ๆ

"แล้วเธอไม่เผื่อท้องไว้กินกับฮันนี่ของเธอเหรอ ? เค้ามาหรือยังเนี่ย ?"

กิ๊วอมยิ้ม

"พี่รุ่งเหรอ ? ไม่รู้ดิ เดี๋ยวเดินหาเอาก็ได้ อยู่กับพี่รุ่งไม่ต้องกินหรอก แค่ได้นั่งมองหน้าก็อิ่มแล้ว อิ อิ อยากเห็นพี่รุ่งจัง วันนี้พี่รุ่งจะน่ารักขนาดไหน ?"

กิ๊วใช้ตะเกียบคีบข้าวปั้นหน้ากุ้ง จิ้มซอส ส่งเข้าปากแล้วกัด วาซาบิรสจัดทำให้เธอรู้สึกเผ็ดขึ้นจมูก น้ำตาคลอ สะบัดข้อมือเรียกเพื่อน

"เชอรี่ ๆ ขอน้ำหน่อยดิ"

เชอรี่หันซ้ายหันขวา

"โน่น เรียกพนักงานเสิร์ฟเค้าสิ ชั้นยังไม่มีน้ำเหมือนกัน"

กิ๊วคีบข้าวปั้นส่วนที่เหลือ จิ้มซอสอีกครั้ง

"ไม่เป็นไร เผ็ดแต่อร่อย เดี๋ยวค่อยหาน้ำกินทีเดียว"

เธอป้อนข้าวปั้นเข้าปาก หางตาเหลือบไปเห็นหนุ่มบริกร ใส่เสื้อแขนยาว สวมเสื้อกั๊กทับ เดินผ่านมา เธอกวักมือเรียก พูดทั้ง ๆ ที่อาหารยังเต็มปาก

"พี่คะ พี่คะ จะเอาน้ำได้ที่ไหน ?"

"กิ๊ว !" หนุ่มในชุดเสื้อกั๊กเรียกชื่อเธอกลับด้วยเสียงอันดัง

กิ๊วเงยหน้าขึ้นมอง ตาเหลือกแทบจะถลน แล้วข้าวปั้นหน้ากุ้งก็สำลักขึ้นจมูก

"อ๊อก !"

เธอรีบคายข้าวปั้นจากปากลงที่จาน แล้วไอค่อกแค่ก ซอสโซยุวิ่งขึ้นมาที่จมูก น้ำตาไหลลงที่แก้ม เธอเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง

ชายในดวงใจ เหตุใดจึงแต่งกายในชุดพนักงานเสิร์ฟ ?

"พี่รุ่ง ! แค่ก ๆๆ" เธอพูดไปไอไป

"ไรกัน ? เห็นแค่นี้ทำสำลัก" รุ่งหัวเราะ

เชอรี่ยกมือไหว้รุ่ง เธออมยิ้มเมื่อเห็นชายในฝันของเพื่อน แต่งกายแบบนี้

กิ๊วรีบก้มลงควานหาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าถือ ควานไป ไอไป สะบัดมือไป

"ขอ... น้ำ น้ำ"

รุ่งรีบเดินไปหาบริกรเสิร์ฟน้ำที่อยู่แถวนั้น แล้วหยิบน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว เดินกลับมา

กิ๊วเช็ดหน้าเช็ดปากด้วยผ้าเช็ดหน้าเสร็จเรียบร้อย รุ่งยื่นแก้วน้ำมาให้

"เอ้า... น้ำ"

เธอรีบคว้าแก้วน้ำ ยกขึ้นดื่ม ดื่มเสร็จ ก็ยิงคำถามทันที

"พี่รุ่งไม่สบายหรือเปล่า ? ทำไมวันนี้แต่งตัวเต็มยศแบบนี้ ? พี่รุ่งต้องมาเป็นเด็กเสิร์ฟเหรอ ? ทำไมเค้าใจร้ายจัง ? กิ๊วนึกว่าเค้าเชิญพี่รุ่งมาในฐานะญาติ ไม่นึกว่าเค้าจะเชิญให้พี่รุ่งมาเป็นพนักงานเสิร์ฟน้ำ"

เชอรี่หัวเราะ

รุ่งเหล่ด้วยหางตา

"พูดจบหรือยัง ? พูดซะพี่เกิดความมั่นใจเลย พี่ไปละ"

รุ่งทำท่าจะเดินจากไป กิ๊วจับข้อมือไว้

"เดี๋ยวก่อนสิพี่รุ่ง นี่กิ๊วงงจริง ๆ นะ พี่รุ่งต้องมาเสิร์ฟน้ำจริง ๆ เหรอ ?"

"เปล่า แต่งตัวแบบนี้มันผิดกฏหมายหรือไง ?"

กิ๊วขมวดคิ้ว เธอแน่ใจว่ารุ่งกำลังอำเธออยู่

"แล้วพี่รุ่งนึกยังไง ถึงเอาเสื้อกั๊กพนักงานเสิร์ฟมาใส่ ? ถามจริง"

"มันเป็นแฟนซีไง เข้าใจหรือเปล่า ? แต่งแล้วไม่หล่อหรือไง ?"

กิ๊วมองดูเสื้อกั๊กที่รุ่งสวมอยู่ เธอหัวเราะ

"หล่อ ๆ.... ทำไมพี่รุ่งไม่ผูกหูกระต่ายด้วยเลยล่ะ ? แล้วถาดน้ำหายไปไหน ? ไม่แบกถาดน้ำด้วยล่ะ หรือว่า อู้งาน ?"

รุ่งพูดกับตัวเอง

"อือ... ดูมัน กูไม่น่าเดินมาเจอยัยนี่เล้ย !"

กิ๊วหัวเราะ

"พี่รุ่งไปเจอคนอื่น เค้าก็ต้องตกใจเหมือนกันแหละ แล้วนี่วิเจอพี่รุ่งหรือยัง ? พี่รุ่งแน่ใจเหรอว่าคนในบ้านวิ เค้าเข้าใจพี่รุ่ง ถ้าพี่รุ่งแต่งตัวแบบนี้อะ ? ฮ่า ๆๆๆ พี่รุ่งตลกอะ"

รุ่งพยักหน้าหงึก ๆ

"อือ... กูกลับบ้านเลยดีกว่ามั้ยเนี่ย ?"

กิ๊วหัวเราะ

"ฮ่า ๆๆๆ ก็ได้ ก็ได้ ไม่ถามเรื่องชุดนี่ก็ได้ แล้วพี่รุ่งจะเดินไปไหน ? กินอะไรหรือยัง ?"

"พี่จะเดินไปหาไอ้สองตัวนั่น พอพี่แต่งตัวแบบนี้แล้ว มันไม่ยอมเดินด้วยเลย เลวจริง ๆ"

คำพูดของเขา ทำให้กิ๊วหัวเราะอีก

"หาใครอะ ? พี่ทอมพี่วิทย์เหรอ ? ไปดิ ไปเดินหาด้วยกัน คงอยู่แถวซุ้มอาหารนี่แหละ"

กิ๊วจูงแขนรุ่งออกเดิน

"เดี๋ยวกัปตันเห็น เค้าจะตัดเงินพี่รุ่งนะ มาอู้งานควงกับแขก เหอ ๆ"

อากาศเริ่มเย็นขึ้นเล็กน้อย ไฟประดับที่ตกแต่งต้นไม้ถูกเปิดขึ้นพร้อมกัน สร้างความสวยงามตระการตาให้กับแขกผู้มาเยือนทุกท่าน

กิ๊วกระชากแขนเสื้อรุ่ง

"พี่รุ่ง ดูสิ เค้าเปิดไฟที่ต้นไม้ โรแมนติคจังเลย"

"กิ๊ว ไอ้เสื้อตัวนี้มันมีประวัติอ่อนโยน ถ้าดึงแรงกว่านี้ มันจะแยกทางกันให้เห็นต่อหน้า"

กิ๊วยกมือไหว้

"ขอโทษค่ะ ดีจังเลย เค้าเปิดไฟตอนกิ๊วเดินควงพี่รุ่งพอดี"

สายตารุ่ง เหลือบไปเห็นเพื่อนทั้งสอง กำลังยืนรออาหารอยู่ที่ซุ้มภัตตาคารสุวรรณภูมิ

"โน่นไง เจอแล้ว ทั้งสองตัว"

รุ่งเดินนำกิ๊วเข้ามาที่ซุ้มอาหาร

ชาวต่างชาติสามสี่คน รวมทั้ง ทอม และ วิทย์ กำลังยืนรอผัดไทที่ได้สั่งไป

รุ่งเดินตรงเข้ามาทางข้างหลังของวิทย์ แล้วยกมือขึ้นเขกหัวเบา ๆ

"อยู่นี่เอง ไอ้เวร ! มึงจะทิ้งกูเลยใช่มั้ย ?"

วิทย์หันกลับมาแล้วหัวเราะ

กิ๊วยกมือไหว้

"สวัสดีค่ะ พี่ทอม พี่วิทย์ โห... พี่ทอม ชุดพี่ทอมน่ารักจังเลย"

วิทย์กระเซ้าเพื่อน

"อือ... อีนี่มันจะมาหาลูกค้าหมอดู หาโต๊ะมาตั้ง เอาไพ่มากองนึง แกอาจจะได้ลูกค้าก็ได้"

ทอมมองชุดเพื่อน เธออดหัวเราะไม่ได้

"เพื่อนชั้นแต่งตัวเป็นบ๋อยก็ดูเข้าท่าดี ว่าปะ กิ๊ว ?"

กิ๊วหัวเราะชอบใจ

รุ่งหันซ้าย หันขวา

"กูให้เค้าไปหาเสื้อใหม่มาให้ดีกว่า ใส่แบบนี้คนได้เข้าใจผิดกันทั้งงาน"

วิทย์หัวเราะ

"อ้าว ก็มึงบอกว่า งานนี้ไม่ค่อยมีใครรู้จักมึง ใส่เสื้อกั๊กบ๋อยนี่ทับไปก่อน หาอะไรกิน แล้วค่อยว่ากัน มึงดูนี่ดิ ไอ้ล็อบสเตอร์เหี้ยนี่ ตัวใหญ่ชิบหาย"

รุ่งยกเท้าเหยียบลงไปบนเท้าเพื่อนปากหมา

วิทย์ร้อง "โอ๊ย !"

"อยู่ต่อหน้าน้อง มึงพูดคำหยาบอีกแล้ว"

กิ๊วหัวเราะ

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพื่อนในห้องพูดกันหยาบกว่านี้อีกค่ะ ที่ซุ้มโน้นอะ พี่วิทย์ ปลาทูน่าเหี้ยนั่นก็ตัวใหญ่มากเลย พี่วิทย์ไปเห็นมาหรือยัง ?"

วิทย์กับทอมหัวเราะ

ทอมพูดขึ้น

"แกหาอะไรกินก่อนแล้วกัน ชั้นกับวิทย์สั่งผัดไทไปแล้ว เค้าผัดน่ากินมากเลย เดี๋ยวรอเค้าทำเสร็จก่อน แล้วจะเดินตามไป"

รุ่งชะเง้อ มองดูซุ้มอื่น ๆ

"ไปล่อไอ้เลี่ยนดีกว่า ไปปะ กิ๊ว อยากกินสปาเก็ตตี้"

กิ๊วพยักหน้าเห็นด้วย เดินควงแขนรุ่งออกไป

*********************************************************************************

อ่านหน้า> 2, 3 , 4
นิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก เปิดให้จองแล้ว กดที่นี่