| |||||||
| |||||||
สามชั่วโมงกว่ากับการเที่ยวชมเขตสถานปฏิบัติธรรมอารยะเมตตาจิต จบลงที่อาคารทิวาทิพย์ สองสาวขอปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำ พีรวิทย์ยืนคุยกับสองหนุ่มอยู่ที่โถงของอาคาร "ท่าทางเพื่อนของคุณจิตรจะสนใจที่นี่มาก เสาร์หน้าคงได้เห็นเค้ามาเรียนแน่ ๆ" พิจิตรพยักหน้า "ก็น่าจะเป็นงั้นครับ ! แต่ผมจะเล่าให้ญาเค้าฟังก่อนว่าที่นี่เป็นไง ถ้าสนใจก็จะได้มาพร้อมกัน" ธรรม์พยักหน้าไปด้วย "น่าสนใจครับ ! ที่นี่น่าสนใจ ทุกอย่างเป็นประโยชน์กับส่วนรวม แล้วครูปั้น เธอมีความคิดที่ทันสมัย ง่าย ๆ แต่ทำได้จริง" พีรวิทย์พยักหน้ารับ "มันก็ต้องได้คนศรัทธาที่มาช่วยกันด้วย ยิ่งคนศรัทธามากขึ้น เราก็จะเปลี่ยนแปลงสังคมได้เร็วขึ้น" สาวในชุดผ้าถุงนางหนึ่ง เดินเข้ามาหาพีรวิทย์ "คุณพีรวิทย์คะ คนชื่อธเนศบอกว่าให้โทรกลับเบอร์นี้ค่ะ" เธอยื่นเศษกระดาษให้ พีรวิทย์มีสีหน้าประหลาดใจ "ธเนศไหนกัน ?" "ไม่ทราบค่ะ ! เค้าบอกว่าคุณพีรวิทย์น่าจะจำเค้าได้" "โอเค ! ได้ ๆ ขอบคุณจ้ะ !" เขารับเศษกระดาษไว้ ******************************************************************************************** สองอาคันตุกะสาว เดินออกมาจากห้องน้ำหญิงพร้อมกัน "พี่ทอมจะมาเรียนธรรมะที่นี่เสาร์หน้าเหรอคะ ?" "คิดว่ามานะ หงส์สนใจจะมาด้วยมั้ยล่ะ ?" รุ่นน้องสั่นหัว "หงส์ไม่ถนัดด้านธรรมะหรอกค่ะ เป็นได้แค่มารร้าย เหมือนกับที่เด็กคนนั้นชี้หน้าไว้" พูดแล้วเธอก็หัวเราะ ทอมจับแขนหงส์ "เด็กคนนี้ท่าทางจะไม่เบา อย่าไปถือเค้าเลย" หงส์พยักหน้าตอบ "ค่ะ ! ไม่ถือ เพราะพี่จิตรเป็นคนปฏิบัติธรรมใช่มั้ย พี่ทอมถึงชอบ ?" "หือ !... พี่จิตรเหรอ ? อือ... ก็มีส่วน พี่จิตรเป็นแมนมาก ๆ ตั้งแต่ขึ้นเครื่องบินจากเมืองไทย พี่เค้าก็เป็นสุภาพบุรุษให้เห็นแล้ว พี่จิตรนั่งติดกับผู้หญิงแก่ เค้าเป็นคนเชค ฯ พี่จิตรก็ช่วยเค้าเอากระเป๋ายกขึ้นที่เก็บ แล้วก็เสนอสลับที่นั่ง ให้ผู้หญิงคนนั้นนั่งริมทางเดินเพื่อจะได้เข้าห้องน้ำสะดวก เวลาจะกินอาหาร พี่จิตรก็แกะให้เค้า บริการเค้าเหมือนญาติเลย เพราะเห็นว่าเค้าแก่แล้ว ขึ้นเครื่องคนเดียวน่ะ อายุแปดสิบแล้ว" หงส์พยักหน้าอมยิ้ม "ก็เลยชอบเค้าตั้งแต่ตอนนั้น ?" "ก็... แค่คิดไว้ในใจว่า พี่คนนี้เป็นคนดี ประทับใจครั้งแรกตอนนั้น" หงส์พยักหน้าหงึก ๆ "หว่อเตอต้าเกอ โหย่วหนาหลี่ปี่ปู้ซั่งทาเนอ (พี่ชายของเรา สู้เขาไม่ได้ตรงไหนกันนะ)" เธอพูดเป็นภาษาจีนกลาง ทอมเลิกคิ้ว "อะไร ? แปลว่าอะไรน่ะ ?" หงส์สั่นหัว "ไม่ต้องแปลค่ะ เป็นความลับ !" เธอพูดแล้วก็อมยิ้ม ******************************************************************************************** รถยนต์ออดี้รุ่นเอสี่ ยังคงความนิ่มนวลให้ผู้โดยสารได้สัมผัสเหมือนเดิม... .... คุณภาพเสียงจากเครื่องเสียงชั้นยอดในรถยนต์ ก็ยังคงความใสทุ้มในระดับสี่ดาวเหมือนเดิมโดยไม่ผิดเพี้ยน .... แต่ โชเฟอร์กลับปิดวอลุ่มตัวเองสนิท ไม่มีเสียงพูดปริออกจากปากนับตั้งแต่รถเคลื่อนออกจากสถานปฏิบัติธรรมอารยะเมตตาจิต วันนี้ที่เขาได้สัมผัสกับตัวตนอีกมุมหนึ่งของท่านกรรมการอาวุโสแห่งแก่งอุดม ความคิดหนึ่งเกิดขึ้นมาทันที.... เป็นไปได้ว่ากรณีนี้อาจจะเหมือนกับกรณีของรุ่งโรจน์ ที่การตีความของอาสะไภ้ แตกต่างกับความเป็นจริงที่เขาได้สัมผัส "เพลียมั้ยคะ ?" หงส์ถามขึ้น ธรรม์สั่นหัว "ไม่ครับ ! ไม่เพลีย" เขาตอบ แล้วก็สิ้นสุดการสนทนาแค่นั้น นิ้วชี้ของหงส์เคาะที่หน้าตักตัวเองไปตามจังหวะของเพลง "คุณธรรม์ !" เธอเรียกชื่อเขา โชเฟอร์หันหน้ามา "ครับ !" "คิดดังเหมือนกันนะคะ" "หา !?!!?" เขากดรีโมทที่พวงมาลัยเพื่อลดระดับเสียงเพลง "ว่าไงครับ ?" "ก็ตอนขามา ใครหาว่าหงส์คิดดัง ?" เขานึกออก "อ้อ...! ครับ ! ผมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะครับ" "ไม่เรื่อยเปื่อยแล้วมั้ง ท่าทาง ถ้าไม่ใช่เรื่องที่หนักอกมาก ก็คือ.... ง่วงนอนจัด อย่างไหนกันแน่คะ ?" ธรรม์หัวเราะ "ไม่ครับ ! ไม่ง่วงนอน ผมขับได้สบายมาก" "อ้อ...! งั้นแสดงว่า หนักอกมากนั่นเอง" คำหยอกของผู้โดยสาร ทำให้เขามีอารมณ์ขันได้ "ฮ่า ๆๆๆ ! เป็นหมอดูหรือไงครับ ?" "เห็นเงียบผิดปกติ นึกว่าหลับใน แวะพักทานข้าวเย็นดีมั้ยคะ ? หงส์ขอเลี้ยงดินเนอร์เอง" "ก็ได้ครับ ! แล้วจะเรียกให้ญากับพิจิตรมาทานด้วยกันมั้ยครับ ?" "ไม่เป็นไรค่ะ ! ได้ดินเนอร์กับผู้บริหารกลุ่มไตรสรณ์ สองต่อสอง ตื่นเต้นดีค่ะ ขอบคุณนะคะ สำหรับวันนี้" ******************************************************************************************* ฉวีวรรณยืนท้าวสะเอว เมื่อได้ยินสามีพูดแต่ประโยคคำถามวกไปวนมากับโทรศัพท์มือถือ "อารายกันวะ ? มันเป็นงี้ได้ไง ? แล้วจะทำยังไง ?... อารายกัน ?.... ไหงมันเป็นงี้ ? อารายวะ ?..." เธอตะคอกเสียงดัง "พี่ ! เป็นอะไร ? บ่นอะไรซ้ำไปซ้ำมายังงั้น ? พี่คุยกับใคร ?" ชูศักดิ์ทำหน้างง ๆ แล้วชี้ที่โทรศัพท์มือถือ "คุณธเนศโทรมา งงว่ะ ! ทำไมเป็นอย่างนี้วะ ?" "อะไรกัน ? เค้าโทรมาว่ายังไงเล่า ? เล่าให้ชั้นฟังก่อน" สามีสั่นหัว "ไม่รู้จะเล่ายังไง งงว่ะ ! ทำไมมันเป็นอย่างนี้วะ ?" "พี่หยุดบ่นก่อนเถอะ นี่วางสายไปหรือยัง ?" สามีสั่นหัว "ยัง ! เดี๋ยวให้เค้าเล่าเองดีกว่า งงว่ะ !" ชูศักดิ์เปิดลำโพงโทรศัพท์ "คุณธเนศครับ รบกวน เล่าอีกครั้งให้เมียผมฟังนะครับ ผมไม่รู้จะเล่ายังไง งง" เสียงปลายทางดังจากลำโพง "คือ... ผมได้คุยโทรศัพท์กับคนที่อารยะเมตตาจิต คนนี้เชื่อใจได้ว่าข้อมูลจริงที่สุด เค้าบอกว่า ผู้นำเก่าที่กลับชาติมาเกิดน่ะ พวกเค้าเจอแล้ว ได้ติดต่อกันเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดเผยออกไป จะมีรู้แค่เฉพาะคนที่จำเป็นต้องรู้เท่านั้น จนกว่าถึงเวลาที่เปิดเผยได้" ฉวีวรรณอุทานทันที "อ้าว ! มันเป็นงั้นได้ไง !" ชูศักดิ์ตบเข่าตัวเอง "เห็นมั้ย ? เธอก็พูดคำเดียวกัน" "แล้วคนนั้นเป็นใครล่ะคะ ? คุณเธนศรู้หรือเปล่า ?" "ไม่รู้ครับ เค้าบอกไม่ได้ คนที่จำเป็นต้องรู้เท่านั้นถึงรู้ ไอ้ผมเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่นั่นมานานแล้ว เค้าคงไม่จำเป็นต้องให้ผมรู้" ชูศักดิ์เริ่มตั้งสติได้ ยิงคำถาม "แล้วทำไมถึงให้คนอื่นรู้ไม่ได้ ในเมื่อสาวกเค้าก็รู้ว่ากำลังรอผู้นำเก่ากลับมา ? ถ้ามาแล้ว รีบบอกให้คนรู้ จะได้ดีใจกัน" "เรื่องเงินสิครับ ! เด็กที่เป็นผู้นำเก่ากลับชาติมาเกิดคนนี้ จะเป็นคนชี้ว่าใครจะเป็นผู้บริหารเงินเป็นพันล้านที่เก็บไว้ในระหว่างที่ผู้นำยังไม่บรรลุนิติภาวะ ฉะนั้น ผู้นำในร่างเด็กคนนี้ จึงสำคัญมาก พวกเค้าก็กลัวว่าถ้าคนอื่นรู้ เด็กอาจจะเป็นอันตราย เรื่องที่ไม่คาดคิดอาจจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องป้องกันไว้ก่อน ปิดเป็นความลับว่าใครคือเด็กคนนั้น" ชูศักดิ์ฉุกคิดได้ในอีกแง่มุมหนึ่ง เขาปรบมือเสียงดัง "เยี่ยม ! ดีเลย ! ได้จบกันซักที เดี๋ยวเธอไปเรียกไอ้เปี๊ยกมา แล้วบอกมันว่า จบเกมส์ได้แล้ว เค้าเจอผู้นำของเค้ากันเรียบร้อยไปแล้ว มันไม่ใช่ผู้นำใครที่ไหนมาเกิด เลิกฝันได้แล้ว มันคือลูกของพ่อชูศักดิ์แท้ ๆ ไม่ใช่ผู้นำบ้าบอที่ไหน ไอ้อันตรายห่าเหวอะไรที่จะมีกับลูกพ่อ ก็ยกแม่งให้กับผู้นำคนใหม่ของเค้านี่ รอดแล้วเรา...." เขาถอนหายใจยาว "....เฮ้อ.... ! หมดห่วงไปที ไอ้เรื่องบ้า ๆ นี่ จบลงซะได้ ดีใจจริง ๆ" เสียงเธนศแย้งมา "แต่.... คุณชูศักดิ์ อันนี้ผมพูดจากส่วนตัวนะ ผมมั่นใจล้านเปอร์เซนต์ว่า หนูเปี๊ยก เป็นผู้นำเก่าตัวจริง มันคงเป็นเรื่องของคุณชูศักดิ์กับครอบครัวเองว่าจะตัดสินใจอย่างไร ในเมื่อเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ ผมเองนั้นไม่มีความเห็น เพราะผมก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับเค้ามานานแล้ว แต่ ผมขอย้ำจากความเชื่อของผมอีกครั้งว่า หนูเปี๊ยก คือ ผู้นำเก่า ตัวจริง ลองปรึกษากับหนูเปี๊ยกก่อนนะครับ ว่าจะให้มันจบลงอย่างนี้ หรือ จะเอาอย่างไร ? อยากให้ผมช่วยอะไรต่อ ค่อยติดต่อมา ผมขอตัวก่อนครับ" ชูศักดิ์เก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋ากางเกง เขาพูดไปหัวเราะไป "ข่าวดี ข่าวดี ! แม่จ๋า.... เดี๋ยวเราออกไปหาอะไรที่แพงที่สุดในเกาะภูเก็ตกินดีกว่า ฉลองเย็นแห่งความสุข ฮ่า ๆๆๆ ! ลูกกู ได้กลับมาเป็นลูกกูอีกครั้ง... ว่าไงแม่จ๋า ?" สีหน้าของภรรยาเฉยเมยสิ้นดี รอยยิ้มสักนิดไม่มีเผยอมาจากมุมปาก นัยน์ตาถมึงทึง สามีหยุดท่าทางสรวลเสเฮฮาทันที พูดเสียงอ่อย "พี่พูดอะไรผิดไปเหรอจ๊ะ ?" ฉวีวรรณสะบัดหน้า หันตัวเดินออกจากห้องทำงาน "เปี๊ยก ! เปี๊ยกเอ๊ย เปี๊ยก ลูกแม่ ! แม่มีอะไรคุยด้วย" เธอตะโกนเรียกลูกชายที่อยู่ชั้นบน ชูศักดิ์บ่นพึมพำ "ลูกแม่ ! ....ต้องมีคำนี้ซะด้วย กูทำอะไรก็ผิดเสมอ ไอ้เปี๊ยก ! รู้ยังงี้ไม่น่าจะเลี้ยงมึงให้โตเล้ย !" เขายกมือขึ้นเกาหัว __________________________________________________________________________________________ โดย วีรยาติ หากท่านต้องการอ่าน อภิญญาฆราวาส ตอน 26 ท่านคิดว่าเหตุใด งูตัวนั้น จึงเลื้อยเข้าหาพิจิตร ? เลือกคำตอบ ข้อใดข้อหนึ่ง ระหว่าง ก. งูปกป้องไม่ให้คนเข้าไปใกล้ศาล หรือ ข. งูปกป้องไม่ให้พิจิตรเข้าใกล้ทอม ติดตามอ่านเบื้องหลัง และ ของแถมตอนนี้ กดที่นี่ กลับขึ้นด้านบน
สมัครสมาชิก เว๊บบอร์ดที่นี่ (หากไม่สมัครสมาชิก จะโหวต หรือ แสดงความคิดเห็นไม่ได้) และ อ่าน หรือ แสดงความคิดเห็นที่นี่ |
|||||||
|
|||||||