ตอน 56 (หน้า 3/3)

งานเลี้ยงแห่งปี (2)

ข้างหน้าเธอคือ สวนญี่ปุ่น ตามที่เจ้าหน้าที่ชี้ทางให้เดินมา นี่คือสถานที่นัดหมายที่ถูกระบุไว้ในเศษกระดาษ

ชายวัยประมาณห้าสิบปี รูปร่างสูง ผอมเกร็ง อยู่ในชุดเสื้อยืดคอปกสีเทา กางเกงยีนส์ ยืนรออยู่บริเวณทางเท้าหน้าบริเวณบ่อปลา

"คุณหงส์"

"สวัสดีค่ะ น้ายงค์ มาอยู่ในงานนี้ได้ยังไงคะ ?" เธอยกมือไหว้ด้วยสีหน้าที่แสดงความประหลาดใจ

"ผมตามคนมา ตามมาตั้งแต่เช้า เขาเข้ามาในงานนี้ตอนบ่ายแก่ ๆ ผมเลยหาทางเข้ามาทางประตูหลัง บอกยามว่าเป็นพนักงานขับรถ มารอนาย เขาถึงให้เข้ามา"

"ใครคะ ? น้ายงค์ตามใครมาในงานนี้ นี่เป็นงานของพี่แอนดี้หรือเปล่า ?"

"ใช่ งานของคุณแอนดี้ แต่คุณแอนดี้ไม่รู้ เรื่องมันยาวหน่อย คุณหงส์มีเวลาฟังหรือเปล่า ?"

หงส์ดูนาฬิกาข้อมือ

"ได้ค่ะ เล่ามาเลย"

"ผมติดต่อคุณแอนดี้ไม่ได้มานานมาก ข้อมูลทั้งหมดเลยกองอยู่กับผม ยังไม่ได้ให้คุณแอนดี้ซักที "

"น้ายงค์ไม่ต้องติดต่อพี่แอนดี้แล้ว ติดต่อหงส์คนเดียว บัญชีทั้งหมดของพี่แอนดี้ หงส์เป็นคนคุมหมด แต่งวดที่แล้ว หงส์ได้ทำจ่ายให้แล้วนะคะ"

"ขอบคุณครับ ได้รับครับ คุณแอนดี้ไปไหนล่ะครับ ? เรื่องสำคัญอย่างนี้ เขาจะไม่รับรู้เลยเหรอครับ ?"

หงส์พยักหน้ายืนยัน

"พี่แอนดี้มีเรื่องสำคัญสำหรับตัวเองมากกว่าเรื่องนี้แล้ว แต่สำหรับหงส์นั้น เรื่องนี้ สำคัญสำหรับหงส์มาก น้ายงค์เล่ามาเถอะค่ะ"

"ครับ ข้อมูลที่ได้หลังจากที่ติดต่อคุณแอนดี้ครั้งสุดท้ายแล้ว คือ สภาพศพในวันที่เกิดเหตุ ศพของคุณหลงถูกพบในสภาพนอนอยู่บนถนน ห่างจากรถยนต์ประมาณสิบเมตร ถูกยิงเข้าที่หน้าอกสองนัด กระสุนหนึ่งนัดยิงถูกที่หัวใจ การชันสูตรศพ พบว่า คุณหลงมีแอลกอฮอลล์อยู่ในสายเลือดในระดับที่มากพอที่จะครองสติไม่ได้ พูดได้ง่าย ๆ คือ เมา อันนี้ คุณแอนดี้เองก็ให้การกับตำรวจสอบสวนว่า ได้มีการดื่มเบียร์กันที่บ้านคุณแอนดี้ก่อนหน้านั้นจริง ใกล้กับศพพบปืนพกซับคอมแพคที่ไม่มีทะเบียน บรรจุกระสุนขนาดสิบเอ็ดมม.สิบสองนัด ยังไม่ได้ถูกยิงสักนัด ตรวจพบรอยนิ้วมือของคุณหลง ซึ่งแน่ใจว่านี่คือปืนที่คุณหลงเดินถือลงไปด้วย แต่เมื่อกระสุนเจาะหัวใจ มือก็จะคลายปืนออก ตกลงข้าง ๆ ตัว "

หงส์รู้สึกฉงนในข้อมูลที่ได้ยิน

"พี่หลงมีปืนอยู่ในมือด้วย ?"

เธอนึกได้ถึงปืนพกของพี่ชาย เป็นไปได้สูงว่าพี่ชายเก็บปืนพกไว้ในรถ แล้วอาหลงก็หยิบมาใช้

"ตำรวจสรุปขั้นต้นว่า เป็นการทะเลาะวิวาทกันบนท้องถนน เนื่องจากมึนเมา แล้วอาจจะขับรถยั่วโทสะกันมา มาถึงที่เกิดเหตุ คุณหลงก็จอดรถ แล้วเดินถือปืนจะมายิงคู่วิวาท แต่คิดไม่ถึงว่า คู่วิวาท ก็พกปืนเหมือนกัน เหตุเกิดหลังเที่ยงคืน ซึ่งเป็นปกติที่กลุ่มนักเที่ยวกลางคืน เพิ่งดื่มเหล้าเสร็จ แล้วก็ออกจากสถานบันเทิง อยู่ในสภาพมึนเมากันทั้งสองฝ่าย"

หงส์กำลังฟัง แล้วใช้สมองคิดตามไปด้วย

อาหลงไม่ใช่คนที่มีนิสัยนักเลงขนาดนั้น เขาไม่เคยมีพฤติกรรมที่เมาแล้วหาเรื่อง อาหลงเป็นคนที่ไม่ขับรถเร็ว เป็นไปได้ยากที่เขาจะขับรถด้วยความเมา แล้วยั่วโมโหรถคันอื่น

น้ายงค์เล่าต่อ

"หลังจากที่ตำรวจได้รับแจ้ง เมื่อรู้ว่ารถที่ผู้ตายใช้เป็นพาหนะเป็นรถของใคร จึงได้ติดต่อไปที่เจ้าของรถ หลังจากนั้น มีคนของสถานฑูตจีน ติดต่อเข้ามาหาผ่านทางตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เนื่องจากผู้ตายเป็นคนต่างด้าว สัญชาติจีน ทางสถานฑูตขอเข้ามาร่วมสืบสวนด้วย แค่นี้ก็ผิดปกติแล้วครับ ปกติเรื่องเหล่านี้มีขั้นตอนการปฏิบัติระหว่างประเทศที่ตกลงกันไว้ แต่กรณีนี้ ผู้ตายเป็นแค่ชาวจีนธรรมดา ไม่ใช่นักธุรกิจอะไรใหญ่โต แต่ถึงขนาดมีคนจากสถานฑูตจีนเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย"

หงส์พยักหน้า

"นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ เพราะ ครอบครัวกิจบูรณาเคยทำงานที่สถานฑูตไทยในปักกิ่ง ครอบครัวของหงส์ รวมทั้งพี่หลง ได้รับการอุปการะจากคุณหญิงของกิจบูรณามาตลอด"

"ครับ ทางผมเองไม่ทราบว่าใครอยู่เบื้องหลังยังไง ผมสืบเฉพาะเรื่องที่ได้รับการว่าจ้างจากคุณแอนดี้ คือ การติดตามข้อมูลจากตำรวจ เพื่อต้องการจะรู้ว่า คนยิงต้องการสังหารใครกันแน่ แต่สภาพของสถานที่เกิดเหตุที่คุณหลง ถูกยิงนอกรถยนต์นั้น ก็บอกอย่างชัดแจ้งแล้วว่า ไม่ใช่เป็นการสังหารผิดคน เป็นไปไม่ได้ที่ ผู้ยิง จะยิงเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นคุณแอนดี้ เพราะ คุณหลงนั้น ลงมายืนอยู่กลางถนนแล้ว ระดับมือสังหารนั้น ไม่มีทางมองคนพลาด เพราะเขาจะมีคนชี้เป้าก่อนยิง"

หงส์ขมวดคิ้ว

"ไม่ได้ยิงผิดคน ? คนชี้เป้าคืออะไรคะ ?"

"การสั่งมือปืนมาเก็บคนนั้น เขาจะไม่ให้มือปืนรู้จักกับผู้จ้าง เขาจะจัดการจ้างผ่านคนกลาง แล้ววิธีบอกเป้านั้น เขาจะไม่ส่งรูปถ่ายให้ เพราะมันเป็นหลักฐานมัดมือปืนเอง แต่ผู้จ้าง จะให้คนที่รู้จักว่าเป้าหมาย เป็นใคร หน้าตาอย่างไร เป็นคนชี้เป้า คนชี้เป้านี้ จะนัดกับมือปืนที่ไหนซักแห่ง มือปืนจะอยู่ในระยะไม่ไกลจากคนชี้เป้า เมื่อเป้าหมายปรากฏตัว คนชี้เป้าจะเข้าใกล้เป้าหมายให้มากที่สุด และ ทำการระบุด้วยวิธีไหนก็ได้ ให้มือปืนเห็นว่า คือ เป้าหมายคือคนคนนี้ ยกตัวอย่างเช่น เดินเข้าไปข้างหลังเป้าหมาย แล้วใช้มือชี้ โดยไม่ให้เป้าหมายมองเห็น แต่ต้องให้มือปืนมองเห็นหน้าตา และ รูปร่างโดยชัดเจน เมื่อชี้เสร็จ คนชี้เป้าก็จะปลีกตัวไป แล้ว มือปืน ก็จะตามเป้าหมายไป รอจนได้โอกาสสังหาร จึงสังหาร

มืออาชีพ เขาจะไม่ใช้วิธีบอกกันลวก ๆ ว่า เป้าหมายขับรถคันนี้ ชี้แค่รถ แล้วสั่งว่า ใครขับรถคันนี้ ให้เก็บซะ เขาไม่ทำกันครับ เขาต้องชี้กันที่ตัวเป้าหมายเลย"

หงส์พยักหน้าเข้าใจ

"ฉะนั้น น้ายงค์ว่า เป็นไปไม่ได้ที่คนชี้เป้า จะชี้ผิดตัว เพราะ รูปร่างหน้าตาของพี่หลง แตกต่างจากพี่แอนดี้มาก"

"ใช่ครับ เราสามารถตัดกรณีเรื่องการชี้ตัวผิด ออกไปได้เลย ไม่ใช่แน่นอน ข้อต่อมาคือ การที่คุณหลง เดินออกมาจากรถแล้ว ค่อยถูกยิง นี่ยิ่งเป็นการยืนยันว่า ไม่ใช่การตั้งใจสังหารคุณแอนดี้ เพราะผู้ยิง ได้เห็นรูปร่างของคุณหลงอย่างชัดเจนแล้ว"

"ถ้าอย่างนั้น แสดงว่า เขาต้องการยิงพี่หลงจริง ๆ"

"คุณหงส์ฟังเรื่องที่ผมจะเล่าต่อดีกว่าครับ หลังจากนั้น ตำรวจก็ตามคดีนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่พบร่องรอยใด ๆ สืบไปถึงเพื่อนที่คุณหลงไปมาหาสู่ ก็ไม่พบว่ามีประวัติขัดแย้งใด ๆ กับใคร แต่เมื่อสามวันก่อน ตำรวจพบข้อมูลที่เชื่อมโยงเข้ากับคดีนี้ได้โดยบังเอิญ.."

สายตาของธอจ้องหน้าน้ายงค์ ตาไม่กระพริบ

"... เมื่อสามวันก่อน ตำรวจที่เชียงรายบุกจับมือปืนที่สังหารนักการเมืองที่ขอนแก่น แล้วหนีไปกบดานอยู่กับเพื่อนที่เชียงราย มือปืนรายนี้หลบไปอาศัยอยู่บ้านอดีตนายตำรวจ ชื่อ พงษ์พัฒน์ การจับกุมครั้งนี้ ตำรวจได้ค้นเจอรูปภาพที่ถ่ายรถยนต์ ป้ายทะเบียนรถ และ รูปของผู้ชายคนหนึ่ง รวมรูปภาพทั้งหมดประมาณสามสิบกว่ารูป ตำรวจจึงได้เช็คข้อมูลกับกรมขนส่ง พบว่า ทะเบียนรถ นั้นคือ รถยนต์ของคุณแอนดี้ มันคือรถที่คุณหลงใช้เป็นพาหนะในคืนวันเกิดเหตุ ข้อมูลเหล่านี้ ก็มาเชื่อมโยงกับคดีคุณหลง "

หัวใจของหงส์เริ่มเต้นรัว

"แล้วยังไงต่อคะ ?"

"รูปผู้ชายคนนั้น ก็คือ รูปคุณหลง"

หงส์ถามทันที

"แสดงว่า เขาคือคนวางแผนจะยิงพี่หลง ?"

น้ายงค์ ไม่ตอบในทันที เขานิ่งสักพัก แล้วพูดต่อ

"ด้วยหลักฐาน ดูเหมือนจะใช่ แต่ด้วยความเป็นจริง มันไม่น่าจะเป็นแบบนั้น ผมเองก็เคยอยู่ฝ่ายสืบสวนมาหลายปี ในชีวิตจริงของมือปืน ไม่มีมือปืนคนไหนเก็บหลักฐานภาพถ่ายของเป้าหมายไว้ที่บ้าน ยิ่งถ้าเป็นเป้าหมายที่ถูกสั่งให้เก็บ เขาจะไม่ทิ้งหลักฐานเด็ดขาด แล้วสมัยนี้ มันไม่จำเป็นต้องมีรูปถ่ายของเป้าหมายเพื่อที่จะต้องมาจำหน้าตากันก่อน ก็อย่างที่ผมเล่าไปแล้ว เขาใช้คนชี้เป้าก็หมดเรื่อง ไม่ต้องใช้หลักฐานอะไร แต่ที่บ้านของอดีตตำรวจที่ชื่อพงษ์พัฒน์นี้ กลับมีรูปถ่ายของคุณหลงอยู่มากมาย ถ้านายพงษ์พัฒน์เอง เป็นมือปืนที่ถูกสั่งให้เก็บคุณหลง เขาจะไม่มีทางเก็บหลักฐานนี้ไว้มากมายอย่างนั้น"

หงส์ฟังคำอธิบายแล้ว เธอเข้าใจในบางส่วน แต่ไม่ทั้งหมด

"ถ้าเขาไม่ได้ต้องการยิงพี่หลง แล้วเขามีรูปถ่ายพี่หลงไว้เพื่ออะไรคะ ? แล้วสุดท้าย ก็มีคนยิงพี่หลงอยู่ดี มันหมายความว่ายังไงคะ ?"

น้ายงค์พยักหน้า

"นี่แหละครับ เป็นเรื่องที่ทางตำรวจต้องสืบสวนกันต่อ แต่ เขาก็ไม่ละทิ้งประเด็นว่า อาจเป็นไปได้ที่ นายพงษ์พัฒน์ ถูกสั่ง หรือ เป็นคนกลาง จ้างคนให้เก็บคุณหลง นายคนนี้ ก็มีพรรคพวกเป็นมือปืน ก็มือปืนที่ยิงนักการเมืองขอนแก่น ก็ยังหนีมากบดานที่บ้านของเค้า"

"แล้วตอนนี้ นายพงษ์พัฒน์อยู่ที่ไหนคะ ?"

"ตำรวจตามจับอยู่ครับ โดนข้อหาให้ที่พักพิงกับมือปืน ตำรวจจับมือปืนคดีนั้นได้ แต่จับนายพงษ์พัฒน์ไม่ได้ นายพงษ์พัฒน์ไม่ได้อยู่บ้านในเวลาที่ตำรวจบุก แล้วทราบจากคนที่อยู่บ้านใกล้เคียงว่า นายพงษ์พัฒน์ไม่ได้กลับบ้านนี้มาเป็นเดือนแล้ว"

หงส์คิดย้อนกลับไป

"แสดงว่า หลักฐานรูปถ่ายของพี่หลง เค้าไม่ทันที่จะทำลาย เพราะนึกไม่ถึงว่า จะมาโดนตำรวจบุกด้วยคดีอื่น"

น้ายงค์หัวเราะ

"คุณหงส์นี่คิดได้เร็วมาก ใช่ครับ เค้าคงแน่ใจว่า คดีที่คุณหลงถูกยิง ยังไงก็ไม่มีวันตามมาถึงเค้าแน่นอน เค้าจึงไม่ได้เตรียมทำลายหลักฐาน หรือ อีกเหตุผลหนึ่งคือ..."

หงส์ตอบสวนมาทันที

"เขาอาจจะอยากกลับมาทำลายหลักฐาน แต่เขากลับมาไม่ได้"

อดีตตำรวจเก่า สั่นหัว

"นั่นคงไม่ใช่วิธีการของมืออาชีพครับ ถ้าหากเขาจะต้องเดินทางไปลงมือที่ไหนแล้ว เขาต้องทำลายหลักฐานก่อนจากบ้านไป ไม่ใช่ไปก่อเรื่องแล้ว ค่อยนึกขึ้นมาได้ว่า ลืมทำลายหลักฐาน นี่ไม่ใช่วิธีการทำงานของคนที่เคยเป็นตำรวจมาก่อนแน่นอน"

"งั้น อีกเหตุผล คืออะไรคะ ?"

"มันอาจเป็นเรื่องสุดวิสัย การยิงคุณหลงนั้น เป็นเรื่องที่เค้าเอง อาจไม่ได้คาดคิด จากสภาพการที่คุณหลงถือปืนลงจากรถนั้น แสดงว่า คุณหลงต้องรู้ตัวว่ากำลังมีจะอะไรเกิดขึ้นกับตัวเอง ถึงถือปืนลงไปด้วย ปกติของมือปืนอาชีพ เวลาจะตามสังหารนั้น จะใช้เวลาสั้น ไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมง ก็จะจัดการเป้าหมายได้ ซึ่งระดับมืออาชีพ ไม่มีทางจะทำให้คุณหลงมีเวลาระวังตัวได้เลย"

"งั้น น้ายงค์คิดว่า เหตุการณ์มันเป็นยังไงกันแน่คะ ?"

"จากรูปถ่ายมากมายที่บ้านนายพงษ์พัฒน์ มันเหมือนกับว่า เขาถูกสั่ง ให้ติดตามคุณหลง ไม่ใช่คำสั่งให้ฆ่า การติดตามนั้น คงจะติดตามมาเป็นระยะเวลานาน ไม่ใช่แค่วันเดียว แต่อาจะเป็นอาทิตย์ หรือ เป็นเดือน ซึ่งในกรณีนี้ เป็นไปได้มากว่า คุณหลงเอง จะรู้สึกตัวว่าถูกคนตาม จึงถือปืนลงไปเพื่อป้องกันตัว นี่คือข้อสันนิษฐานที่น่าจะพอเป็นไปได้ แต่สิ่งที่ขาดก็คือเหตุผลว่า ตามคุณหลงทำไม ? มันต้องมีเหตุจูงใจที่ตำรวจยังหาไม่พบ"

"ถ้างั้น แล้วน้ายงค์ตามใครมาถึงที่นี่คะ ?"

นักสืบอาชีพหัวเราะเบา ๆ

"ผมตามตำรวจมาครับ มีตำรวจสองคน ได้รับคำสั่งให้ขยายผลจากการรวบรวมหลักฐานได้ที่เชียงราย เขาพบว่า นายพงษ์พัฒน์ เป็นคนสนิทที่ทำงานให้กับนักธุรกิจคนหนึ่งในกรุงเทพ ฯ ส่วนผมเอง ผมยังไม่ทราบว่านักธุรกิจคนนี้คือใคร แต่สายผมโทรมา บอกว่าให้ตามนายตำรวจสองคนนี้มาอีกทีหนึ่ง สายของผม กำลังเช็คข้อมูลกับคนที่อยู่ในบริษัทให้บริการสัญญาณมือถือ ว่ามีตำรวจ ขอให้ตรวจสอบหมายเลขของใครบ้าง ซึ่งอีกซักพักก็คงรู้ผล ก็นี่แหละครับ ผมก็ตามตำรวจสองคนนั้นมาจนถึงที่นี่ ตำรวจสองคนนั้น ได้บัตรเชิญ เดินเข้างานไปได้ ส่วนผม ต้องหาทางเข้ามาทางประตูด้านหลัง ผมเดินมาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ ก็เห็นคุณหงส์กำลังลงจากรถ ผมก็รู้สึกแปลกใจ ว่าทำไมเรามาอยู่ในที่เดียวกันได้"

"บอกหงส์ทันทีนะคะ น้ายงค์ ทันทีที่น้ายงค์รู้ว่า เขามาตามใคร หงส์อยากรู้"

"ได้ครับ คุณหงส์เปิดโทรศัพท์มือถือไว้หรือเปล่าครับ ?"

หงส์สั่นหัว

"หงส์วางโทรศัพท์มือถือไว้ในรถ ใส่ชุดแบบนี้ หงส์ไม่สะดวกจะพกโทรศัพท์มือถือ"

เขาพยักหน้ารับรู้

"ไม่เป็นไร ยังงั้น คุณหงส์รอผมแป๊บนึง ผมโทรกลับไปถามเค้าเลย"

หงส์พยักหน้า เธอดูนาฬิกาข้อมือ ยังพอมีเวลาเหลืออีกเล็กน้อย ก่อนที่จะถึงเวลาอาหารค่ำ

นักสืบประยงค์ กดโทรศัพท์มือถือไปคุยกับพรรคพวก งานนักสืบ ทำให้เขาจำเป็นต้องมีมีเครือข่ายผู้ให้ข้อมูลที่อยู่ในหน่วยงานต่าง ๆ และ แน่นอน.... บริษัทโทรคมนาคมผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณมือถือ คือ แหล่งข้อมูลที่สำคัญมาก

เขาหยิบปากกา กับ สมุดโน๊ตเล็ก ๆ ขึ้นมาจด

เขาตัดสายโทรศัพท์แล้ว ด้วยความที่สายตายาว เขายื่นมือเหยียดแขนที่ถือกระดาษจดออกไปจนเกือบสุด แล้วอ่าน

"จากเครือข่ายดีแทค เอไอเอส ทรูมูฟ ตำรวจได้ขอรายงานตรวจสอบเบอร์ที่โทรออก และ รับสาย ของเจ้าของหมายเลขที่ ชื่อ นายพีรวิทย์ แก่งอุดม, นายปัญจะวิทย์ แก่งอุดม นี่คือข้อมูลของสามเครือข่ายที่ได้ถูกตำรวจขอรายงาน"

หงส์พยายามจำชื่อ และ นามสกุลไว้

"พีรวิทย์ ปัญจะวิทย์ แก่งอุดม"

น้ายงค์อธิบายเพิ่มเติม

"นี่คือ เจ้าของเลขหมายที่ตำรวจขอให้เจ้าของเครือข่ายโทรศัพท์รายงาน แต่เราก็ไม่รู้ว่า สองคนนี้ จะอยู่ในงานนี้หรือไม่ ?

หงส์ใช้สมองเล็กน้อย

"ไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก หงส์พอจะมีวิธี หงส์ขอตัวเดินกลับเข้าไปในงานก่อน ถ้าน้ายงค์ยังอยู่ที่นี่ เดี๋ยวเราหาโอกาสเจอกันในงานอีกทีแล้วกันนะคะ"

เลอหงส์รีบเดินตามทางเท้า เพื่อกลับมายังคฤหาสน์หลังใหญ่

ใบหน้าของพี่ชายตัวเตี้ยที่แสนจะใจดีผุดขึ้นมาอยู่ในมโนภาพของเธอ เสียงโทรศัพท์ในเช้ามืดของวันนั้นยังดังก้องอยู่ในใจ

เพียงชั่วเวลาไม่กี่นาที ความเคียดแค้นเข้ามาครอบงำจิตใจของเธอได้ทั่วถึงทุกซอกมุม

ใครก็ตามที่ได้พรากพี่ชายคนนี้ไปจากเธอ

เขาจะต้องไม่มีวันได้อยู่อย่างเป็นสุข !

__________________________________________________________________________________________

โดย วีรยาติ

1, 2<อ่านหน้า

กลับขึ้นด้านบน

นิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก เปิดให้จองแล้ว กดที่นี่

อ่านตอนต่อไป
อ่านตอนอื่น

1. สมัครสมาชิก เว๊บบอร์ดที่นี่ (หากไม่สมัครสมาชิก จะโหวต หรือ แสดงความคิดเห็นไม่ได้) และ

2. แสดงความคิดเห็น หรือ โหวต

- ชอบตัวละคร ขอเชิญโหวตได้ที่นี่

- อ่าน หรือ แสดงความคิดเห็นที่นี่

เชิญเยี่ยม Facebook หมอเถื่อน

(ให้กำลังใจโดยเข้าไป แล้วกด Like หรือ เขียนคำวิจารณ์)